ทำกินเองคือทางรอด

ยุคข้าวยากหมากแพง ทำกินเองคือทางรอด

ทำกินเองคือทางรอด

ลองกำเงิน 80 บาท ไว้แน่นๆ ในมือ แล้วเดินเข้าตลาดบางกะปิ วัตถุดิบสำหรับทำอาหารที่ได้ก็ตามภาพเลย

ทำกินเองคือทางรอดต้นหอมและขึ้นฉ่ายที่ซื้อรวมกันมา 3 กำ 10 บาท ในภาพคือหั่นเตรียมไว้ทำแกงแล้ว

เห็ดเข็มทองเห็ดเข็มทอง 10 บาท ส่วนเต้าหู้ไข่ไม่เกี่ยวเป็นของที่มีเหลืออยู่ในตู้เย็น

กุ้งและหอยอันนี้เป็นวัตถุดิบสำคัญ คือ กุ้งและหอยแมลงภู่ เป็นความตั้งใจที่อยากกินอะไรที่เป็นทะเลๆ เห็นรวมกันอยู่นี้ราคาทั้งหมดคือ 50 บาท จริงๆ ต้องจ่าย 60 บาท เพราะป้าคนขายทำเป็นจานไว้ จานละ 20 บาท ตั้งใจจะเอาแค่ 2 จาน 40 บาท แต่ป้าบอกลดให้ 3 จาน 50 บาท ก็เลยโอเค ยังไม่เกินงบก็จัดไป

ตามภาพที่โชว์ให้ดู สรุปได้ว่า จ่ายค่าหอมและขึ้นฉ่าย 10 บาท เห็ดเข็มทอง 10 บาท กุ้งและหอยแมลงภู่ 50 บาท รวมงบประมาณที่จ่ายไปทั้งหมด 70 บาท จึงเท่ากับว่าเงิน 80 บาทที่กำไว้แน่นๆ ในมือนั้น คงเหลือ 10 บาท

ซื้อของมาแค่นี้จะทำอะไรกินได้ ตามภาพข้างล่างเลย ขอเรียกมันว่า แกงจืดทะเล ก็แล้วกัน มื้อเย็นมื้อนี้เป็นมื้อที่ประหยัดตังค์ได้อย่างยอดเยี่ยม 70 บาท อิ่มทั้งบ้าน

อร่อยไหม ให้ลูกชายที่อยู่ในวัยกำลังกินเป็นคนบอก

สุดท้ายขอย้ำคำเดิมที่ไม่เหมือนเดิมอยู่นิดเดียว ในยุคที่ใครก็ไม่รู้ทำให้เราทำมาหากินลำบาก ทำกินเองคือทางรอด ครับท่าน

บทนำ ผอม เด็ก ดูดี

 

บทนำ ผอม เด็ก ดูดี บทนำ ผอม เด็ก ดูดี

บทนำ ผอม เด็ก ดูดี

ก่อนจะเริ่มต้นผม Timmy Buto ขออนุญาตแนะนำเพื่อนรักที่จะเข้ามาแจมบทความ ผอมเด็กดูดีเริ่มต้นที่สมอง กันก่อนนะครับ เธอเป็นสถาปนิกสาวโสดไร้คู่เช่นเดียวกับผม เดิมทีเธอชื่อออมสิน…เธอมักจะชอบบ่นว่าดอกเบี้ยธนาคารนี้ต่ำเกินไปจึงเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น “ชลิตา” อันหมายถึงผู้รุ่งเรืองตามวันเสาร์ที่เธอเกิดว่างั้น เฮอะๆ อยากหัวเราะยายนี้เชื่อหมอดูขนาดหนัก งมงายในเรื่องไม่เป็นเรื่องสุดทาง…เธอเป็นสาวตัวสูงหุ่นเป๊ะ!-ออกทอมบอยนิดๆ ผิวสีน้ำผึ้งไหม้ออกเกรียมนิดๆ….ประเด็นสำคัญนักเลงโคตร ข้อนี้แหละที่ผมชอบเพราะสามารถพึ่งพาอาศัยในเวลาคับขันได้ (5555)….ส่วนผมนั้นเหรอ ไม่อยากจะพูด ถามว่าหล่อ-ดูดีขนาดไหน? ดอกนี้ผมมีเรื่องเล่าให้ฟัง สมัยที่เราจบเข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ ใหม่ๆ เรานัดเจอกันบ่อยมาก มีครั้งหนึ่งผมได้โอกาสถามถึงสิ่งที่คาใจมายาวนาน…

“เฮ้ย! ออมมึงว่ากูหล่อหรือเปล่าวะ” ออมมันนิ่งคล้ายกับคนคิดไม่ตกหรือว่ากำลังช็อก!…ผมจึงรีบชิ่งถามต่อแบบไม่เปิดช่องว่างให้มันคิดนาน “ถ้าแบ่งเป็นเกรด A เกรด B เกรด C มึงว่ากูควรอยู่เกรดไหน…พูดออกมาตรงๆ เลยกูรับได้” ไอ้เราก็หน้าด้านสุดๆ ยายออมใช้กิริยาคล้ายๆ กับปลาทูโง่-คอหักไล่สำรวจผมตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า “เออน่า…มึงก็อย่าให้กูรอนานนักซิวะ!”

“แล้วมึงจะให้กูเทียบกับใครไม่ทราบ” ออมถาม เออ!…มันก็มีเหตุผลดังนั้นใบหน้าของ…

“พี่ติ๊ก”

“ติ๊กไหนละ มันมีอยู่หลายติ๊กนะมึง” มันย้อนเล่นผมแทบลืมหายใจ

“ก็พี่ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ผลดี ไง…คนนี้กูถือว่าเกรด A เลย ว่าไง…หึ!” ผมลงเสียงต่ำ ใจก็เต้นตุบๆ รอลุ้นว่าจะออกไม้ไหน

ออมจ้องหน้าพร้อมกับเบี่ยงซ้ายแลขวาอยู่พักใหญ่ “เฮ้ย! แก…”

“เออน่า….A B C ก็ว่ามาเลย เร็วเข้า…กูรับได้” ไอ้เราก็ยังตื้อไม่เลิก กระทั้งออมมันทำหน้างอทิ้งสายตาลงต่ำจนเดาทางไม่ถูก

“ไม่มีเกรด D ให้เลือกเหรอแก”

เท่านี้แหละครับที่ผมต้องการ เสียเซลฟ์โคตรๆ เข็ดหลาบไปจนวันตาย แล้วชื่อที่ใช้ปัจจุบันละ ได้มาจากไหนกัน…ใครที่เคยอ่าน “ฉันกับนางฟ้าตัวกลม” มาบ้างก็น่าจะรู้แล้วนะครับว่าพี่สาวตัวดี เอ้ย!….นางฟ้าตัวดี…เอ้ย!…นางฟ้าตัวกลมที่อยู่แวนคูเวอร์ประเทศแคนาดาจัดให้ด้วยเหตุผลประมาณว่าฝรั่งออกเสียงได้ง่ายกว่าชื่อภาษาไทยว่างั้น….เวลานางเรียก “Timmyyyyyyyyyyyy” ยานๆ ยืดๆ บอกตรงๆ ว่า… กูชอบมากกกกกกกกกกกกก!

กระทั้งผมกับออมมายื่นเด่นเป็นสง่าบนเลข 35 โดยไม่มีอะไรขาดตกบกพร่องมีแต่เพิ่มขึ้น (5555)….

“ออม….แกถอยหลังไปสัก 2 ก้าวดิ” ผมบอกขณะเพื่อนรักกำลังยืนจิบกาแฟดำยามบ่ายรอเข้าประชุมที่บริษัทแห่งหนึ่งแถวๆ สี่แยกบางนา

นางชี้นิ้วที่กำลังหอบแฟ้มเอกสารไปที่หน้าอกตัวเอง “ฉันชื่อชลิตายะ!….ทำไมยะ…”

“เออนะ ชลิตาก็ชลิตา….” ผมติดรำคาญแต่มันก็ดันถอยหลังไปจริงๆ “มึงว่ากูอ้วนไหมวะ!” ผมถามพร้อมกับเอียงมุม 45 องศาให้สำรวจ

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า โถพ่อโดฯ”

“โดฯ อะไรของมึง” ผมถามเร็ว ๆ

“โดเรม่อนไงไอ้ควาย”

“เออ!…H#e%@*(hFdS]” ถ้าไม่ติดว่าเป็นผู้หญิงแถมยังตัวใหญ่กว่าจะเล่นแม่ง!….

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า พ่อโดฯ ขา บ้านพ่ออยู่ใกล้สุรินทร์หรือลำปางไม่ทราบเจ้าค่ะ”

“สุรินทร์” ผมตอบแบบคนไม่สบอารมณ์

“แดกน้องช้างเป็นอาหารเช้าหรือเย็น….ฮ่า ฮ่า ฮ่า”

“หุบปากไปเลย….” นี้แหละครับคือมัน เพื่อนผู้หญิงคนเดียวที่ผมมี…

“มึงบอกข้อมูลส่วนตัวมาดิ! กูจะคำนวณค่า BMI ให้”

รู้เรื่องค่า BMI

ครับ…ในเมื่อเราจะลดความอ้วนด้วยสูตร ผอม-เด็ก-ดูดี-เริ่มต้นที่สมอง ผมจึงขอเริ่มต้นด้วยข้อมูลเชิงวิชาการสักหน่อยนะครับ ค่า BMI ที่ผมกล่าวนำไว้ข้างต้นย่อมาจากคำว่า Body Mass Index หรือค่าสากลที่ใช้เพื่อคำนวณหาน้ำหนักที่ควรจะเป็นนั้นเองนะครับ รวมถึงการวัดระดับไขมันในร่างกายโดยใช้ส่วนสูงและน้ำหนักในการคำนวณ ค่า BMI ไม่ใช่การวัดไขมันโดยตรงแบบเป๊ะๆ แต่ก็เป็นค่าวัดไขมันในร่างร่างกายได้เช่นกัน ที่สำคัญค่า BMI เป็นอะไรที่น่าเชื่อถือได้สำหรับคนส่วนใหญ่ เพราะค่า BMI สามารถใช้บอกความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเส้นเลือดหรือบอกถึงมะเร็งบางชนิดได้อีกด้วย

สูตรคำนวณค่า BMI ง่าย ๆ มีดังนี้ : น้ำหนัก(กิโลกรัม)หารด้วย{ส่วนสูง(เมตร)ยกกำลัง 2}

ตัวอย่างเช่น : น้ำหนัก = 72 กิโลกรัม, สูง = 165 เซนติเมตร (เท่ากับ 1.65 เมตร)

วิธีคิด : 72 หารด้วย {(1.65)ยกกำลัง2}=26.446 เป็นต้นนะครับ สำหรับคนที่ลืมสูตรคำนวณ (1.65) ยกกำลัง2 ก็ = 1.65 x 1.65 ไม่ใช่ 1.65×2 นะครับ ดูดีๆ ที่บอกก็เพราะว่า Timmy เป็นคนแรกที่โง่อยู่ตั้งนาน (5555)

สำหรับคนเอเชียค่า BMI ระหว่าง 18.5-22.9 : จัดว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ ห่างจากโรคที่เกิดจากความอ้วนและลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ…ใครที่คำนวณแล้วอยู่ในเกณฑ์นี้ก็ขอให้รักษามาตรฐานเอาไว้กับตัวเองให้นานที่สุดก็แล้วกัน คุณคือคนที่เป๊ะมากๆ หากเสริมอาหารตามที่จะเสนอในตอนต่อไป ผิวพรรณ หน้าตาจะดูเปล่งปลั่ง โดยไม่ต้องใช้ครีมหรือโลชั่นอย่างแน่นอน ผอม-เด็ก-ดูดี-ได้ทุกคน Timmy คอนเฟิร์มครับ…

ค่า BMI ระหว่าง 23-24.9 : ให้พยายามลดน้ำหนักอีกนิดเพื่อค่า BMI จะได้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน เพราะค่า BMI อยู่ในช่วงนี้จัดอยู่ในกลุ่มของคนท้วมใกล้เคียงกับเส้นบอกว่าอ้วน ถึงแม้จะดูไม่อ้วนก็ตาม แต่หากคนในครอบครัวมีประวัติเป็นโรคเบาหวานหรือความดันโลหิตสูง ก็ถือว่าเสี่ยงต่อโรคเหล่านี้มากกว่าคนปกตินะครับ

ค่า BMI ระหว่าง 25-29.9 : หากใครคำนวณแล้วมาถึงตรงนี้จะถือว่าอ้วนระดับหนึ่งแม้จะยังไม่อยู่ในเกณฑ์ที่อ้วนมากก็ยังเสี่ยงต่อโรคที่มาพร้อมกับความอ้วนอยู่ดี เบาหวาน ความดัน กำลังโบกมือทักทายคุณๆ ท่านๆ แน่นอน ฉะนั้นให้ระวังและเร่งลดความอ้วนจะส่งผลดีต่อสุขภาพในระยะยาวนะครับ

ค่า BMI มากกว่า 30 : โอ้!….อันนี้ต้องขอบอกเลยว่า อตร. อันตรายแล้วละครับ เสี่ยงต่อการเกิดโรคร้ายที่แฝงมาพร้อมกับความอ้วนแน่นอน ต้องระมัดระวังการกินไขมันและควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอไม่เช่นนั้นเงินที่อุตส่าห์สะสมทั้งชีวิตอาจต้องจ่ายเป็นค่ารักษาตัวเองเพียงอย่างเดียวก็ได้

อ้อ!….เกือบลืม โปรแกรมคำนวณค่า BMI นี้เป็นค่าที่ใช้สำหรับชาวเอเชียและคนไทยนะครับ อาจจะแตกต่างไปบ้างในแต่ละเชื้อชาติ แต่ตัวเลขปรับขึ้น-ลงไม่เยอะ ซึ่งค่า BMI มาตรฐานสำหรับคนไทยจะอยู่ที่ 24.4 อายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไปประมาณนี้นะครับ…

“อายุด้วยไหม” ผมถามไม่ค่อยเต็มเสียง

“เอ้!….เดี๋ยวกูตบคว่ำ”

เห็นไหมละครับ ก็บอกแล้วว่ายายนี้นักเลงโคตร…. “น้ำหนัก 85 กิโลกรัม สูง 167 เซนติเมตร”

“โห! แก….” ออมโยนเอกสารที่หอบให้ผมช่วยถือก่อนจะกดเครื่องคิดเลขจากมือถือเร็วๆ “โห! แก…30.474 มันเกินมาตรฐานคนอ้วนขึ้นไปเยอะเลยนะ” ออมจ้องหน้าที่กำลังขาวซีดไม่กระพริบ “รีบลดความอ้วนโดยเร็วเลย ไม่อย่างนั้นแกมีชีวิตไม่ถึง 40 แน่ ๆ” มีขู่ด้วย…..สั่นเลยกู

“พรุ่งนี้ค่อยเริ่มแล้วกัน”

“ไม่ได้….ต้องวันนี้และเดี๋ยวนี้….เข้าใจไหมไอ้โดเรม่อน”

โอ้ย!…ไม่ไหวคุยกับยายนี้ประสาทจะกิน….ครับตอนต่อไป มาดูชิว่าเกิดอะไรขึ้นกับการพยายามลดความอ้วนของ Timmy จะสะเปะสะปะแค่ไหน ผมคิดว่าคุณๆ ท่านๆ น่าจะเคยประสบปัญหาเดียวกันหรือกำลังเผชิญหน้ากับความไม่รู้อยู่ก็ได้…ไม่เป็นไรครับ แต่ตอนนี้การบ้านก็คือ หาค่า BMI สำหรับตัวเองให้เรียบร้อย..แล้วรอตอนต่อไปได้เลย จับมือกันให้แน่นๆ เพราะผมกำลังพาท่านเดินทางย้อนกลับสู่วัยหนุ่มสาวอย่างสมบูรณ์แบบ….ยิ้มกว้างๆ แล้วแก้ผ้าดูความทุเรศของหุ่นตัวเองผ่านกระจกเงาบานใหญ่ๆ ซะ ถ้าให้ดีควรมีรูปนายแบบ-นางแบบที่แอบปลื้มแปะไว้คู่กันเป็นการเปรียบเทียบจะดีมาก…ขอบคุณครับ

line1 for timmy

เรื่องของคนลูกหมา

เรื่องของคนลูกหมา เขียนไว้เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2557 อ่านเพิ่มเติม เรื่องของคนลูกหมา

อนุชาย 2

อนุชาย 2พบกับ อนุชาย 2 นิยายภาคใหม่ โดย Timmy Buto เร็วๆ นี้

อนุชาย 2

คุณเชื่อหรือไม่ว่าผู้ชาย 2 คนจะมีลูกด้วยกันได้…ถ้าไม่เชื่อ ผม Timmy Buto จะทำให้คุณเชื่อเอง…

หลังจาก “อนุชาย” ภาคแรกจบลงด้วยความขมขื่นและผิดหวัง….ในภาคที่ 2 ความรักของ อนุชัย ธารากรณ์ กับ ชานนท์ สายสกุล ก็ยังเข้มข้นหรืออาจจะเข้มข้นยิ่งกว่าภาคแรกด้วยซ้ำเมื่ออยู่ๆ คุณหมอหนุ่มจาก อเมริกา ก็ปรากฏตัวขึ้นที่บ้าน “Loft Love” ที่ชานนท์สร้างขึ้นแทนหลังเดิม ซ้ำร้ายชื่อของเขายังเป็นชื่อเดียวกับนามแฝงที่ชานนท์ใช้ตั้งแต่อดีตกระทั้งปัจจุบัน คุณหมอเดียร์เนียล สแปนเลย์ คือผู้เข้ามาเปิดแผลเก่าให้เจ็บลึกถึงขีดสุด…

ไม่เพียงแค่นั้นผู้เขียนก็ยังได้เพิ่มมิติของความรักใหม่ๆ เข้าไปอีกชั้น…เมื่อดาริกา ชีวาวัฒนะ ลูกสาวนายกรัฐมนตรีที่ถูกจับแต่งงานกับชานนท์ ทนเห็นสามีเอาแต่กินเหล้าเมาไม่เป็นผู้เป็นคนไม่ไหว เธอจึงจ้างนักสืบเอกชนเพื่อสืบภูมิหลังของเขาและเมื่อความจริงถูกเปิดเผย เธอจึงเสนอให้ชานนท์สร้างอนุชัยคนที่ 2 ขึ้นมาแทนคนรักที่หายไป เพื่อแลกกับอิสรภาพของเธอ…ดาริการโชว์เอกสารการฝากสเปิร์มของอนุชัยและตัวเขาให้ชานนท์เห็น แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์จึงได้นำทางคนทั้ง 2…ในที่สุดมิติความรักที่ลึกสุดก็ถูกสร้างขึ้นมา อานนท์คือเด็กคนนั้น เขาเกิดมาพร้อมๆ กับเลือดกรุ๊ป AB RH- เหมือนกับคนเป็นพ่อต้นแบบ เขาจะดึงอนุชัยกลับมาหาชานนท์ได้หรือไม่ต้องติดตามแล้วละครับ….

อนุชาย ภาค2 เป็นงานเขียนสไตล์ เขียนไปโพสต์ไป เช่นเดียวกับภาคแรก ความสนุกตื่นเต้นจึงอยู่ที่ลำดับเหตุการณ์ต่อเหตุการณ์ บทต่อบท…ทั้งคนเขียนและคนอ่านไม่มีทางรู้สิ่งที่จะเกิดขึ้นในบรรทัดถัดไป-หน้าถัดไปได้เลย…หากคุณไม่สามารถคาดเดาวันพรุ่งนี้ได้ฉันใดจุดประสงค์ของผู้เขียนก็ประมาณนั้น

ด้วยความที่ผู้เขียนไม่ใช่นักเขียนมืออาชีพ ผู้เขียนจึงรู้สึกเป็นอิสระในการนำเสนอ การเขียนผิดๆ ถูกๆ ตกๆ หล่นๆ จึงเป็นเรื่องที่ผู้เขียนจะต้องยอมรับและน้อมนำที่จะเพิ่มการตรวจสอบ-ตรวจทานให้มากยิ่งขึ้นเพื่อเนื้อหาของนิยายจะได้ไม่สะดุดหยุดลงง่ายๆ….เมื่อคนอ่านเข้าถึงอารมณ์ของตัวละครเมื่อนั้นรางวัลและความสุขของผู้เขียนก็จะเกิดขึ้นเช่นกัน

กราบขอบพระคุณล่วงหน้าที่ให้อภัย ติดตามไปเรื่อยๆ มีความสุขร่วมกันแล้วพรุ่งนี้ ของเรา ก็จะสวยงาม…สวัสดีครับ

คุณนายซาอุฯ บทที่11

คืนที่ไร้ดาว คุณนายซาอุฯ บทที่11 (ฉบับบ้านโคกอีรวย) นิยายอ่านฟรีจบเรื่อง
อ่านเพิ่มเติม คุณนายซาอุฯ บทที่11

คุณนายซาอุฯ บทที่10

ข่าวร้าย คุณนายซาอุฯ บทที่10 (ฉบับบ้านโคกอีรวย) นิยายอ่านฟรีจบเรื่อง
อ่านเพิ่มเติม คุณนายซาอุฯ บทที่10

คุณนายซาอุฯ บทที่9

จดหมายขาดหาย คุณนายซาอุฯ บทที่9 (ฉบับบ้านโคกอีรวย) นิยายอ่านฟรีจบเรื่อง อ่านเพิ่มเติม คุณนายซาอุฯ บทที่9