อนุชาย ตอนที่ 26

อนุชาย ตอนที่26

อนุชาย ตอนที่26 ห้องสีขาว นิยายอ่านฟรีจบเรื่อง

อนุชาย ตอนที่26

เมื่อคุณหญิงพวงพรกับอนุชาติมาถึงโรงพยาบาล พวกเขาก็ตรงดิ่งสู่ห้องฉุกเฉิน เกือบ 4 ทุ่มแล้ว แพทย์เวรประจำโรงพยาบาทอำเภอเล็กๆ ยังเป็นนายแพทย์ฝึกหัด เขายังจับเครื่องไม้เครื่องมือบางตัวไม่ชำนาญด้วยซ้ำ

“ดิฉันเป็นแพทย์” คุณหญิงพวงพรโชว์บัตรให้พยาบาลเห็น “เอาเสื้อกาวน์มาให้ฉันที คงต้องลุยเองละ…อนุชาติ”

“ครับคุณพี่…ฮื้อๆ” เขายังร้องไห้ไม่หยุดตั้งแต่เห็นหน่วยฉุกเฉินลากร่างเปียกชุมสีแดงฉานลงมาจากรถ

“เธอรอฉันอยู่ข้างนอกอย่าไปไหนเด็ดขาด…ใจเย็นๆ พวกเขาต้องรอด ฉันให้สัญญา”

“ครับคุณพี่”

เมื่อคุณหญิงพวงพรตรงดิ่งเข้าไปหา 2 ร่างที่นอนนิ่งคู่กันอยู่บนเตียง เธอเลือกจะเข้าไปเช็คชีพจรของอนุชัยที่มีเลือดท่วมตัวเป็นอันดับแรก โดยมีพยาบาลวิ่งควักไขว่ไปมารอบๆ เสร็จเธอก็ตรงดิ่งไปหาบุตรชายที่โดนกระสุนฝั่งในบริเวณอกด้านซ้ายอีกคน

“ที่นี่เรามีเลือดกรุ๊ป AB RH- หรือไม่คะ” คุณหญิงพวงพรถามอย่างคนมีประสบการณ์กับนายแพทย์ฝึกหัดที่ใส่แว่นหน้าตี๋ๆ

“มีแต่ AB RH+ อยู่ถุงหนึ่งครับคุณหมอ” เขาตอบเร็วๆ

“ลองให้พยาบาลโทรเช็คโรงพยาบาลใกล้เคียงทีซิ เผื่อว่าจะโชคดี” เธอกดเสียงต่ำขณะที่มือยังทำงานไม่หยุด

“ครับ ได้ครับ” นายแพทย์หนุ่มหมุนตัวเดินไปสั่งพยาบาลที่โต๊ะแล้วก็เร่งฝีเท้าเข้ามาสมทบอีก

“เธอไปดูลูกชายฉันก็แล้วกัน คนนั้นเลือดกรุ๊ป A ไม่น่าจะเป็นอะไรมาก ส่วนคนนี้ฉันเองดีกว่า”

“ครับๆ”

แพทย์พยาบาลต่างเร่งมือช่วยเหลือชีวิตคนทั้งคู่กันจ้าระหวั่น สักพักพยาบาลสาวก็วิ่งเข้ามารายงาน

“ดิฉันเช็คโรงพยาบาลรอบๆ ในรัศมี 100 กิโลเมตรทั้งหมดแล้วคะคุณหมดเลือดกรุ๊ป AB RH- ไม่มีเลย แต่มีรายชื่อคนที่มีเลือดกรุ๊ปนี้อยู่อำเภอกบินทร์บุรี และนครนายก ดิฉันจะให้คนตามให้”

คุณหญิงพวงพรนิ่งวิเคราะห์  “4 ทุ่มกว่าแล้วนะ อย่างไรก็ไม่ทันแน่ๆ  แต่เรามี RH+ อยู่ใช่ไหม”

“คะคุณหมอ” เธอตอบอย่างคล่องแคล้ว

“ถ้าอย่างฉันก็ยังพอมีวิธี….เออๆ…เธอเห็นผู้ชายที่สวมเสื้อสีน้ำเงินลายขาวที่กำลังนั่งร้องไห้อยู่หน้าห้องไหม”

“คะคุณหมอ”

“ไปบอกให้เขาเตรียมพร้อมไว้….เขา RH- แต่ปัญหาคือเลือดเขาน้อย แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีเลย”

“คะได้คะ”

“เธอต้องสู้นะอนุชัย….ป้าอยู่นี้แล้ว เราจะสู้ไปพร้อมกัน โอเคไหม” คุณหญิงพวงพรกระซิบ ก่อนจะลุยงานที่เคยชินอย่างคนชำนาญ

(หมายเหตุ  ถ้าเกิดกรณีฉุกเฉิน ผู้ป่วยต้องการ Rh- ในจำนวนมากเพราะกำลังตกเลือดอย่างหนัก มีวิธีแก้คือให้ Rh+ เข้าไปก่อน  พอผู้ป่วยดีขึ้น เลือดเริ่มหยุดไหล ผ่าตัดเย็บแผลแล้ว ค่อยเอา Rh- ที่มีไม่มากนักใส่เข้าไปตบท้าย เพราะ Rh+ที่ใส่เข้าไปในตอนแรกมันจะไปหล่อเลี้ยง แต่หลังจากนั้นมันจะออกมาเพราะตกเลือดอีกครั้ง แต่การที่จะให้ Rh+ กับผู้ป่วยที่เป็น Rh-  ทำได้แค่หนึ่งครั้งเท่านั้น เพราะว่าร่างกายของผู้ป่วยเป็นเนกาทีฟ พอรับเอาเลือดโพสิทีฟเข้าไป จะมีการสร้างแอนตี้บอดี้ ทำให้เม็ดเลือดแดงถูกทำลาย ถ้าให้ครั้งต่อไปอาจทำลายจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก…https://board.postjung.com/704450.html)

เมื่อคนทั้งคู่พ้นขีดอันตรายคุณหญิงพวงพรจึงสั่งย้ายไปยังโรงพยาบาลของเธอในกรุงเทพฯ ทันที….

แสงสีขาวนวลดันทุกสิ่งเป็นสีขาว ขาวตั้งแต่เพดาน แสงไฟ ผนังลามมาจนถึงผ้าปูที่นอนหมอนและชุดที่สวมใส่ (มันที่ไหนกันน้อ!)อนุชัยกำลังใช้สมองเรียบเรียง แต่จนแล้วจนรอดเขาก็ยังนึกไม่ออกกระทั้ง

“เป็นไงบ้างอนุชัย…ตื่นแล้วรึ”

เขาพลิกศีรษะเอียงไปตามทิศที่มา คุณหญิงพวงพรในชุดกาวน์สวมถุงมือสีขาวยิ้มให้  สมองเขาเริ่มทำความรู้จักเธอกระทั้งความทรงจำสิ่งแรกกลับมา และสิ่งที่อยากจะรู้ต่อจากนั้น

“ไอ้คุณละครับ” พูดจบเขาก็หลับตา

“คนไหนจ้ะอนุชัย…” คุณหญิงพวงพรไม่รู้มาก่อนว่าอนุชัยเรียกลูกชายเธอด้วยสรรพนามนี้

เขาลืมตาแล้วก็เผลออดขำไม่ได้ “เอ่อ ผมหมายถึงชานนท์นะครับ”

“อ้อ!….เอ้!…เธอ 2 คนอะไรกันนะ คนนั้นตื่นก็ถามหาคนนี้ คนนี้ตื่นก็ถามหาคนนั้น….ฮิๆๆ เขานอนอยู่เตียงข้างๆนี้แหละจ้า ลองพลิกไปดูซิ พึ่งจะหลับเมื่อกี่เอง” คุณหญิงพวงพรถอดถุงมือจนได้ยินเสียงดังแปะ แปะก่อนจะบีบแอลกอฮอล์ข้างเตียงล้างมือที่เปลือยเปล่า

“สมรกับศักดาดิ์ก็มาตั้งแต่เมื่อวานแล้วนะ พวกเขากำลังคุยกับ….เอ่อ” เธอเชิดหน้าราวกำลังคิดถึงความเหมาะสม ก่อนจะกลับมาจ้องเขาอีก “กำลังคุยกับพ่อแท้ๆ ของเธออยู่ด้านนอก”

“พ่อ พ่อแท้ๆ…..ของ ของผมเหรอ….” อนุชัยออกเสียงคล้ายคนขาดความมั่นใจ

“จ้ะ…พ่อแท้ๆ ที่มีเลือดกรุ๊ป AB RH- เช่นเดียวกับเธอ เขาเป็นคนช่วยชีวิตเธอนะรู้ไหม…. ป้าหมายถึงอนุชาตินะ เขาเป็นคนเลือดน้อย ลำพังตัวเองก็จะเอาตัวไม่รอด แต่เขาก็พร้อมจะเสี่ยงเพื่อลูกชายอย่างเธอนะ….เดี๋ยวป้าจะไปตามมาให้” คุณหญิงพวงพรกำลังจะลุกแต่อนุชัยก็คว้าแขนเธอเอาไว้อย่างคนประหม่า

“เอ่อ ขอโทษครับคุณป้า….ผมไม่รู้จะเริ่มต้นพูดกับเขาอย่างไร”

“ฮ่าๆ อุ้ย!เด็กคนนี้นิ….ก็เริ่มต้นด้วยรอยยิ้มที่ตาชายมักจะบอกว่า เธอใช้หัวใจยิ้มแทนริมฝี่ปากไงละ…ง่ายจะตาย…เอานะไม่ลองไม่รู้”

“ถ้าอย่างนั้นผมขอคุยกับแม่สมรกับพ่อศักดิ์ดาก่อนละกัน” อนุชัยใช้สายตาวิงวอน

“อย่างนั้นก็ได้”

เมื่อสมรเห็นอนุชัยลืมตายิ้มให้เธอ เธอถึงกับร้องไห้จนพูดไม่ออก ได้แต่ลูบคลำบีบมือเขาไปมา ศักดิ์ดาคุยกับเขาหลายคำก่อนจะชวนเธอออกไปข้างนอก และต่อจากนี้เป็นนาทีเปิดตัวครั้งแรกสำหรับพ่อ-ลูก เขาคิดและกังวลสารพัด กระทั้งชายที่ดูคล้ายเขาในอีก 30 ปีข้างหน้ามายืนยิ้มฉ่ำๆ ที่ปลายเตียง  เขารู้สึกเขินแต่ก็ยิ้มเบิกทางตามที่คุณหญิงพวงพรแนะนำ อนุชาติเดินมานั่งลงข้างๆ ก่อนจะดึงมือเขามาบีบกุม ใบหน้าเขายังยิ้มฉ่ำๆ จนเกือบจะเห็นน้ำตา นิ้วแต่ละนิ้วก็ไล่เลียงราวต้องการจะอ่านมันให้ครบ….และอยู่ๆ

“พ่อ…..” อนุชัยเรียกและน้ำตาที่กำลังเอ่อเมื่อครู่หล่นแหมะ “พ่อ…” เขาเรียกอีก

อนุชาติสะอื้นจนสั่นสะท้านไปทั้งตัว “พ่อ พ่อขอโทษอนุชัย พ่อขอโทษที่ไม่สามารถปกป้องลูกกับแม่ได้ พ่อขอโทษ” เขายกมือลูกชายขึ้นมาจูบ แล้วก็ฟุบลงกับลำตัว “พ่อขอโทษ”

อนุชัยยิ้มน้ำตาจากอารมณ์ยินดีอาบไหลลงหางตาและติ่งหู เขาพยายามสกัดกั้น แต่ก็ได้เท่านั้น “แต่พ่อก็ยังช่วยผมได้ทันนิ” เขาบอก

อนุชาติเงยหน้า เขาเช็ดน้ำตาให้ลูกชายด้วยมือตัวเอง ทีละข้าง “ทุกคืนพ่อหลับตา พ่อก็จะเห็นแต่เด็กทารถดวงตากลมๆ โตๆ ใสๆ จะสิบหรือ 20 ปี ภาพซ้ำๆ ก็ยังอยู่กับพ่อครบถ้วน”

“ตั้งแต่คืนนี้เป็นต้นไป พ่อควรลบภาพเก่าๆทิ้งได้แล้วนะ เพราะ นุ อยากให้พ่อจำแต่ นุ คนปัจจุบัน” อนุชัยตั้งสติพูด จนลืมสังเกตอีกคนที่นอนท้าวค้างยิ้มจ้องเขาอยู่บนเตียงข้างๆ….

“นายพูดภาษาลิเกก็เป็นเนอะ…” ชานนท์แทรกจนอนุชัยยิ้มเกือบๆจะหัวเราะ

“นายตื่นตั้งแต่เมื่อไร…ทำไมไม่ให้สัญญาณเลย” อนุชัยพลิกตัวถามข้ามพ่อตัวเอง

“ฉันตื่นตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว….จริงๆ แม่จะให้ฉันกลับไปรอนายที่บ้านลอฟท์เลิฟก่อนด้วยซ้ำไป….แต่มันไม่แฟร์กับฉัน…นายว่าไหม ในเมื่อไปด้ายกัน..เจ็บด้วยกัน  ก็ต้องอยู่ด้วยกันจนจบถึงจะถูกต้อง ว่าไหมละ….”

“หยุดพูดเลย” อนุชัยปรามก่อนชานนท์จะหลุดความลับในบ้านลอฟท์เลิฟให้อนุชาติได้ยิน “นี้ นุ หลับไปกี่วันครับพ่อ” อนุชัยแก้เขิน

“วันนี้วันที่ 3 ลูกโดนยิง 2 แผลแต่กระสุนเม็ดหนึ่งทะลุไปฝังในอกตรงจุดเกือบจะเป็นหัวใจคุณชานนท์” อนุชาติบอก

“พอเลยครับคุณอา ถ้าเป็นลูกธนูจากคิวปิด ชายจะไม่ว่าอะไรสักคำ”ชานนท์พูดพลางส่งสายตาหวานๆข้ามไปตกยังเขา อนุชัยได้แต่ขยิบตาปราม “แต่ถ้าชายตื่นทันชายจะห้ามไม่ให้เอาออกนะ จะได้มีของขวัญจากใครบางคน… ฮ่าๆๆ”

“นายนะบ้าไปแล้ว…คุณพ่ออย่าไปฟังมันนะครับ”

“พ่อดีใจนะที่ลูกกับคุณชายเข้ากันได้ดี ลูกเป็นพี่เขา ลูกควรให้อภัยน้องถึงจะถูกใช่ไหม”

“ต้องให้ชายเรียกเขาว่าพี่ด้วยไหมละครับคุณอา” ชานนท์ยิ้มเยอะอีก

“ใช่ๆ…ต่อจากนี้เป็นต้นไป นายต้องเรียกฉันว่า พี่นุนะห้ามพลาด ไม่งั้นโดนพี่เล่นแน่ๆ”

“ครับพี่ทิมมี่…..”

“เอ้ย!…เดี๋ยวเถอะ ลุกได้เมื่อไรนายโดนจัดหนักแน่ๆ”

“ฮ่าๆ…รอมา 2 คืนแล้วเนี่ย…ฮ่าๆๆ”

“เอาละๆ พ่อจะปล่อยให้พักผ่อนแล้ว นอนพักให้เยอะ ลูกพ้นขีดอันตรายแล้วละ”

“ครับ…ขอบคุณครับพ่อ”

“ขอบคุณครับคุณอา” ชานนท์บอกส่งอีกคน

“เอาละพ่อจะออกไปข้างนอกนะ อาไปละชาย พักผ่อนเยอะๆ”

เมื่ออนุชาติเดินออกจากห้องไปแล้ว ชานนท์ลุกนั่งพร้อมกับเดินลากขาเหล็กกระปุ๊กน้ำเกลืออ้อมมาเตียงอนุชัย

“นายจะทำอะไรนะ”

“เอ้อ! ขยับไปหน่อยจะนอนด้วย”

“จะบ้าเหรอ นี้มันโรงพยาบาลนะ”

“โรงพยาบาลแล้วจะทำไม ก็สามีจะนอนกับภรรยาไม่ได้รึไง”

อนุชัยส่ายหน้าละอาในความหน้าหนาของเขา แต่มุมปากก็ซ่อนยิ้มบางๆ พร้อมกับขยับตัวให้

“แค่นั้นแหละ”

ชานนท์จะเอาขามาเกย.. “ไม่เอาเดี๋ยวมีคนเข้ามาเห็น”

“ไม่มีแล้ว นี้มันเกือบจะเที่ยงคืนแล้วนะเด็กโง่”

“หือ! นายดิเด็กโง่ ฉันนะพี่นายนะ”

“ครับพี่ทิมมี่”

และแล้วในห้องสีขาวของคืนนั้นก็มีเพียงพวกเขา “คิดถึงบ้านลอฟท์เลิฟนะนายว่าไหม” ชานนท์พูดเบา

อนุชัยพยักหน้าขณะจ้องแสงไฟบนเพดาน “อื้อ!….บ้านของเรา”

ชานนท์ตะแคลงข้างหันหน้าไปทางอนุชัย พลางใช้มือลูบวนที่หัวเบาๆ “นี้คือกฎเขกกะโหลกข้อที่ 1 ที่ฉันอยากกับนายทุกคืน”

“นี้แน่!…” อนุชัยสับกะโหลกระดับตึบๆ “นี้ก็เป็นกฎเขกกะโหลกข้อที่ 2

“อุ้ย! นายนี้ร้ายใช่ย่อยเลยนะ….นอนเถอะๆอย่างให้ถึงข้อที่ 3 ข้อที่ 4 เลย”

“ข้อที่ 3 ท่าบอกโกรธ แต่ยังรักอยู่ ให้ใช้ฝ่ามือตบหน้าหรือกะโหลกส่วนใดส่วนหนึ่ง น้ำหนักที่ตบอยู่ที่อารมณ์

โกรธนั้น ซึ่งผู้ถูกตบจะต้องประเมินเอง “อนุชัยพูดขณะหลับตาสู่สีดำ

“ข้อที่ 4 ท่าบอกเกลียดหรือบอกเลิกให้ใช้กำปั้นชกเข้าตรงๆ ที่ใบหน้า หรือกะโหลกส่วนใดส่วนหนึ่งแรงสุดชีวิต

แต่หากเราต้องชกกันจริงๆ ฉันจะชกตัวเองจนกว่าจะตาย” ชานนท์ตามก่อนจะหลับตาอีกคน

“นอนเถอะพรุ่งนี้เราจะได้กลับบ้านลอฟท์เลิฟละ”

“อื้อ กอดนะไม่อย่างนั้นฉันนอนไม่หลับ”

อนุชัยเงียบ ชานนท์ก็เงียบไปอีก…เสียงเพลงบอกราตรีสวัสดิ์ดังคลอเบาๆแล้วทั้งคู่ก็หลับลึก  แต่ภายในห้องสีขาวก็ยังเปิดไฟสว่างอยู่เช่นเดิม

“สวัสดีคะท่าน….” พยาบาลที่เข้าเวรอยู่โถงประสานงานดูแลประจำชั้นกล่าวทัก ดร.ชวนนท์ สายสกุล ในชุดสูทสีดำ ด้านหลังมีคนขับรถถือแจกันกุหลาบขาวแซมสีโอโรสเดินเข้ามาติดต่อ “วันนี่ท่านมาซะดึกเลยนะคะ คุณชายกับเพื่อนเธอคงหลับไปแล้วละคะ”

“ประชุมพึ่งเลิกนะ ผมแค่แวะดูพวกเขาเฉยๆ รบกวนหรือเปล่าครับ”

“อ้อ! เปล่าหรอกคะ” พยาบาลเวรกำลังจะลุกเดินนำไปที่ห้อง แต่…

“ไม่ต้องๆ ผมไปเอง สมหวังส่งแจกันมา ฉันถือเข้าไปคนเดียวก็พอ เข้าไปหลายคนเดี๋ยวจะทำให้พวกเขาตื่นซะเปล่า”

“ครับนาย”

ดร.ชวนนท์เดินถือแจกันใบใหญ่ โดยมีสมหวังวิ่งไปเปิดประตูห้องให้ เมื่อประตูบานนั้นปิดตามหลัง ดร.ชวนนท์ สายสกุลก็แทบลืมว่าก้าวต่อไปจะเป็นซ้ายหรือขวาดี เพาะบนเตียงนอนบุตรชายว่างเปล่า แต่บนเตียงเล็กๆ ของอีกคนกลับมีพวกเขากำลังหลับลึก มือและขาที่กอดเกยกันไปมาทำให้เขาหายใจลำบากเป็น 2 เท่า กระนั้นแจกันใหญ่ก็ยังถูกวางเบาๆ ที่หัวเตียงตรง เขายืนพิจารณา 2 ร่างสักครู่ก่อนจะค่อยๆ เดินออกจากห้อง

พอเดินกลับมาถึงจุดเดิม “พวกเขาหลับแล้วละ ถ้าไม่มีอะไรฉุกเฉินอย่าเข้าไปรบกวนพวกเขานะ” ดร.ชวนนท์สั่ง

“คะท่าน ราตรีสวัสดิ์คะ”

“ไปสมหวังกลับบ้าน”

Visited 14 times, 1 visit(s) today

เผยแพร่โดย

Avatar photo

TIMMY BUTO

นักเขียน เรื่องจริงอิงนิยาย และเรื่องราวทั่วไป