นิยายอ่านฟรีจบเรื่อง อนุชาย ตอนที่24 เรื่องราวในอดีต
แดดช่วงบ่ายไม่สามารถผ่านต้นแคนาที่อนุชัยตั้งใจจะให้เป็นป่าสีขาวทางทิศใต้เยื่องไปทางทิศตะวันตกมาถึงตัวบ้านได้ ด้วยเหตุนี้คุณหญิงพวงพรจึงชอบบ้านลอฟท์เลิฟเป็นพิเศษ เธอมักจะอ้างมาเยี่ยมลูกชายบ่อยขึ้น และวันนี้ก็เช่นกัน
อนุชาย ตอนที่24
อนุชัยหยิบแหวนเพชรขนาด 2 กระรัตตัวเรือนเป็นทองคำขาวสมบัติเพียงชิ้นเดียวที่แม่ทิ้งไว้ให้มาพิจารณา เขาพึ่งจะจริงๆ จังๆ กับมันก็วันนี้ แต่ขณะที่กำลังก้มๆ เงยๆ หรี่ตา อยู่ๆ เขาก็ปะเข้ากับอักษรภาษาไทยสลักด้านในของตัวเรือนโดยบังเอิญ มันเล็กมาก เล็กจนเขาต้องไปหยิบแว่นขยายที่ชานนท์ซื้อเมื่อวานก่อนมาส่องดูใกล้ๆ
“บ้าน สาย สกุล” เขาอ่านทีละคำ “คุณ คุณ” อนุชัยตะโกนเรียกชานนท์ที่นั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ ชานนท์มองลอดแว่นแบบเดียวกับคนแก่
“หือ….” เขาขานรับ แล้วก็กลับไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์อีก
“มานี่หน่อย…..” อนุชัยกวักมือเร่ง “เร็วๆเข้า”
“เออๆ อะไรนะ….” ชานนท์ถอดแว่นตาทิ้งไว้กับโต๊ะทำงานแล้วเร่งฝีเท้าเข้าไปนั่งโอบ “มีอะไร..”
“ดูซิ!….ทำไมแหวนแม่ฉันถึงสลักเป็นชื่อบ้านนายละ”
“ไหนขอดูหน่อย….” ชานนท์แย่งแว่นขยายกับแหวนวงนั้นมาส่องขยายอ่านใกล้ๆ “บ้านสายสกุล”เขาออกเสียงเร็วๆ “เออนั้นนะซิ….ทำไมอ่ะ….เอาอย่างนี้ อีกแป๊บเดียวแม่ฉันน่าจะถึงแล้วละ เดี๋ยวถามให้”
“…แม่ฉันกับแม่นาย…อื้อ หรือว่าเรื่องที่คุณป้าเคยเล่าให้ฉันฟัง…จะ จะ”
ชานนท์ทำตาโต “อะไร แม่ฉันเคยเล่าอะไรให้นายฟังตั้งแต่เมื่อไร…ที่ไหน”
อนุชัยหยิบสมุดบางๆโยนใส่หัว “ไอ้คุณขี้ลืมเอ้ย!…..นายจำไม่ได้เหรอ ที่นายพาแม่นายมาหาฉันที่สวนอาหารของเจ่ดวงนะ…อีกซะทีดีไหมจะได้จำได้ หึ!” อนุชัยโยนสมุดใส่ชานนท์อีก จนเห็นเขายิ้ม
“อ้อ จำได้ละ….วันที่นายหลอกฉันให้ไปส่งที่สวนอาหารสะบันงา ฮ่าๆ” เขาหัวเราะใส่หน้า จนอนุชัยขมวดคิ้ว “รู้ไหม วันนั้นแหละที่ฉันปิ้งนายละ….” ชานนท์กระซิบก่อนจะขโมยจูบที่แก้ม
“ไปเลย ไปทำงานต่อเลย” อนุชัยยิ้มอายๆ ตามหลัง
“ฮ่าๆ นายนี้นา!…ความรู้สึกช้าชะมัด โดนชาวบ้านจีบยังไม่รู้ตัวอีก”
“ทำงานไปเลย…ทีหลังก็บอกกันก่อนซิ…จะได้ตอบว่า yes หรือ NO”
“Yesssss โว้ย! ฮ่าๆ” ชานนท์สวนทันควัน แล้วก็หัวเราะไม่หยุด จนอนุชัยโยนสมุดใส่อีกเล่ม “ฮ่าๆๆ”
สักครู่เสียงกริ่งประตูหน้าบ้านลอฟท์เลิฟก็ดังขึ้น
“สงสัยคุณแม่จะมาถึงละ” ชานนท์พูดพลางเงยหน้าดูกล้องวงจรปิดที่จอทีวีใหญ่กลางห้อง ก่อนจะกดเปิดประตูให้ “จริงๆด้วย”
แต่อนุชัยยังเฉย เขาเทียวสำรวจแหวนวงนั้นอย่างไม่รู้เบื่อ กระทั้งคุณหญิงพวงพรผลักประตูอลูมิเนียมเดินเข้ามาหยุดกลางห้องโดยมีคนขับรถหอบของพะลุงพะลัง ตามหลังเข้ามาติดๆ
“สวัสดีครับคุณป้า” อนุชัยเอยตามสรรพนามที่คุณหญิงพวงพรบังคับให้เรียก “สวัสดีจ้ะ…เอาเข้าไปวางไว้บนโต๊ะนั้นละ เดี๋ยวเจ้าของบ้านจัดการเอง” เธอหันไปสั่งสมพร ซึ่งทำให้อนุชัยหันขวับไปทางชานนท์ทันที
“นี้นายให้คุณป้าซื้อของอีกแล้วใช่ไหม” อนุชัยตะโกน
“ก็ไหนๆ คุณแม่ต้องผ่านตลาดอยู่แล้วจะเป็นไรไปเล่า นิดหน่อยเอง” ชานนท์เอ่ยแต่สายตาก็ยังอยู่ที่เดิม
อนุชัยลุกสาวเท้าเข้าไปกดเสียงรอดไรฟันใส่หู “นิดหน่อยบ้าอะไร…นายแหกตาดูชินั้นนะ ฉันกะว่าจะออกไปซื้อเองอยู่แล้วเชียว”
“อ้าว! ทิ้งไว้แถวนั้นแหละสมพร” เสียงของคุณหญิงพวงพรจากห้องนั่งเล่น
“ครับคุณหญิง ผมนั่งรอที่ศาลานะครับ” สมพรพูดพลางโค้งคำนับให้
“จ้า ขอบใจมาก….ไม่เป็นไรหรอกตานุ…งานนี้ป้าไม่ฟรีกับเขาแน่ๆ….” คุณหญิงพวงพรพูดจบก็ย้ายไปนั่งลงใกล้ๆ กับแหวนวงนั้น เธอหยิบมันขึ้นมาพิจารณาแล้วก็ยิ้มบางๆ
“เห็นไหม เห็นฤทธิ์เดชแม่ฉันรึยัง…” ชานนท์พึมพำ
อนุชัยจิ๊!ปาก แบบคนเซ็งในอารมณ์ก่อนจะลูบขยี้หัวจนผมยุ่งเหยิงเป็นรังนกกระจอก ชานนท์ถึงได้เงยหน้าขึ้นมาทำตาใสๆ ให้ “กฎเขกกะโหลกข้อที่ 1 “เขาเปรยพร้อมกับใช้สายตาชี้นำไปยังกฎเขกกะโหลกที่ทั้งคู่ร่วมกันเขียนไว้บนกระดานชนวน…อนุชัยตาลุกวาว รนๆ
“เอาไงดีอ่ะ คุณป้าต้องเห็นมันแน่ๆ ฉันลืมซะสนิทเลย” อนุชัยกดเสียงกระซิบ แต่อีกคนกลับสะใจ
“นาย…กลัว…ฉันจะเปิดตัวลูกสะใภ้รึไง” ชานนท์เล่นต่อ “ฮิๆๆ”
จนอนุชัยอดเขกกะโหลกเขาไม่ได้ “นี่แน่…”
“นุ ชาย มานี้เลยทั้งคู่….” เวลาเดียวกันเสียงคุณหญิงพวงพรก็ดังขึ้น ทั้ง 2 สบตากันแบบตั้งคำถาม “มีอะไรกันนะเร็วเข้า”
ชานนท์ทำเสียง ดิกๆๆๆ “เป็นเรื่องแล้วละงานนี้”เขากระซิบขู่ “ครับ!” แล้วก็ตอบเสียงดังก่อนจะลุกเดินตามหลังอนุชัยไปติดๆ
เมื่อทั้งคู่นั่งลงใกล้ๆ คุณหญิงพวงพรจึงโชว์เพชรในมือให้เห็น…. “นี้คือแหวนที่ฉันให้พวงพร” เธอนิ่งคิดแป๊บหนึ่ง “อย่างที่ฉันได้บอกไปแล้วนั้นแหละ แต่ก่อนฉันชื่อว่าพวงลัดดา น้องสาวฉันชื่อพวงพร เธอเป็นหญิงสาวงดงาม เรียนเก่งและฉลาดมากๆ เรา 2 คนถูกเลี้ยงคู่กันมาตั้งแต่เด็ก พอโตขึ้นเราทั้งคู่สอบติดคณะเภสัชศาสตร์ แต่คุณพ่อให้ฉันไปเรียนแพทย์ที่ซานฟราน ซิสโก เราแยกกันอยู่ 6 ปี แต่ฉันก็ไปๆ มาๆ ปีละราวๆ 2 ครั้ง พอเรียนจบ เธอก็แต่งงานกับคนบ้านตระกูลเชาว์ งานแต่งจัดกันที่โรงแรมเล็กๆ แห่งหนึ่ง ฉันได้เป็นเพื่อนเจ้าสาวด้วยนะ และพวงพรก็แนะนำเพื่อนเจ้าบ่าวให้ฉันรู้จัก ซึ่งก็ไม่ใช่ใครแต่เป็นพ่อของตาชายนั้นเอง ฉันกลับไปเรียนต่ออีก 1 ปี พอจบฉันก็แต่งงานและในวันแต่งงานของฉันพวงพรบอกข่าวดีว่าเธอกำลังท้องได้ประมาณ 2 เดือน เราดีใจกันมากๆ
หลังแต่งงานฉันก็ท้องตาชาย…ขณะที่พวงพรเริ่มหายไป ฉันไม่รู้ว่าบ้านตระกูลเชาว์เกิดปัญหาอะไรกันใจหนึ่งก็อยากถาม แต่อีกใจก็เห็นเป็นเรื่องภายใน…เมื่อน้องสาวฉันไม่พูด ฉันเลยไม่กล้า และเมื่อพวงพรถึงกำหนดคลอดคนที่บ้านตระกูลเชาว์ก็วุ่นวายหนักขึ้นไปอีก ฉันมารู้ทีหลังว่า พ่อกับแม่ของอนุชาติไม่ชอบพวงพรมาตั้งแต่แรก พวกเขาหมายมั่นปั้นมือลูกสาวตระกูลขุนน้ำขุนนางเอาไว้ให้ เรื่องมันจึงไม่ค่อยจะลงลอยกันเรื่อยมา กระทั้งคืนที่พวงพรคลอด ฉันเป็นคนทำคลอดให้เธอกับมือ เธอได้ลูกชายตาโตน่ารัก สุดท้ายอีก 3 วันเธอก็หายออกจากโรงพยาบาล…” คุณหญิงพวงพรเอื้อมดึงมืออนุชัยมาตบปลอบเบา “ฉันกับคุณชวนนท์ และอนุชาติพยายามออกตามเธอทุกๆ ที่ ที่คาดว่าเธอจะไป แต่ก็ไม่เจอ มีเพียงคำบอกเล่าจากคนบางคนว่าเธอโดนยาพิษ”
“คัตตาร์ท ครับ” อนุชัยบอก
คุณหญิงพวงพรใช้หลังนิ้วซับหางตาทีละข้าง “ใช่จ้ะ วันต่อมาโรงพยาบาลต้องปิดทำความสะอาดกันเป็นเดือน เพราะสารพิษไร้กลิ่น ไร้สีชนิดนี้มันร้ายแรงมากๆ ไม่ต้องผสมในอาหารหรือเครื่องดื่ม แค่สูดดมมันก็ทำลายหลอดลม ทางเดินอาหาร และส่วนอื่นๆ….สุดท้ายก็จะเป็นมะเร็ง”
ชานนท์หยิบทิชชู่ยื่นให้แม่ เธอซับมันที่หางตาทีละข้างอีกที
อนุชัยใช้ฝ่ามือปิดปากตัวเอง ชานนท์ตบปลอบที่แผ่นหลัง “มันร้ายแรงขนาดไม่สามารถให้นมกับลูกไม่ได้เลยรึครับ”
“มันเป็นสารพิษที่ถูกผลิตขึ้นมา ใช้ในสงครามโลกครั้งที่ 2 ข้อมูลนี้ฉันรู้ทีหลังจากปากของสมร เพราะทีแรกที่ปิดโรงพยาบาลฉันก็นึกไม่ถึง ไม่มีใครพูด อนุชัย….เธอรอดมาได้ก็ถือว่าบุญแล้วนะ สารพิษตัวนี้เมื่อเข้าสู่ร่างกายมันจะกระจายเข้าทุกส่วนอย่างรวดเร็ว แม่เธอเป็นเภสัชกรนะอนุชัย พวงพรรู้และที่ไม่ยอมให้น้ำนมกับเธอเพราะพวงพรรักเธอ…..ฉัน ฉันรู้สึกผิดกับเรื่องนี้มาโดยตลอด…ฉันต้องขอโทษเธอด้วยนะที่ไม่สามารถปกป้องเธอได้”
“ไม่ครับ คุณป้าไม่ผิด” อนุชัยพูดปนสะอื้นนิดๆ
“เวลานั้นฉันคิดถึงเธอ คิดถึงพวงพรแทบเป็นบ้า พ่อเธอต้องเข้าโรงพยาบาลหลายรอบ เมื่อคลอดตาชาย ฉันจึงเข้าใจอารมณ์ที่พวงพรมีต่อลูก ฉันอยากให้เธอมีความสุขแบบเดียวกับฉัน อยากจะให้ภาพเลวร้ายเปลี่ยนเป็นภาพที่สวยงาม ฉันเลยเปลี่ยนชื่อตัวเองไปใช้ชื่อของเธอ เพราะเมื่อมีคนเรียกก็เหมือนกับแม่เธอมาอยู่ในตัวฉัน…..อนุชัย” คุณหญิงพวงพรดึงมือเขาไปกุมไว้อีกรอบ “ถึงเวลาแล้วนะ ที่เธอจะได้พบกับผู้ชายคนหนึ่ง เป็นผู้ชายที่ตามหาเธอกับแม่มาทั้งชีวิต”
อนุชัยเงยใบหน้าอาบน้ำตามอง…
“พ่อของเธอ อนุชัย พ่อแท้ๆ ของเธอ เขามายืนรออยู่หน้าประตูนานแล้วละ”
“หา!….คุณแม่” ชานนท์ตกใจไม่น้อย เขากะจะลุกเดินไปกดประตูเพื่อเปิดรับ แต่อนุชัยก็รั้งแขนให้นั่งลงที่เดิม
“คุณป้าครับ ผมยังไม่พร้อม” แล้วก็เอาฝ่ามือปิดหน้าตัวเองอีก “ได้โปรด ผม ผมยังไม่พร้อม” ชานนท์โอบตบ ขณะที่ตัวเองก็จะเอาตัวไม่รอด
“คุณแม่คะ ชายว่าเราน่าจะให้เวลากับ นุ สักหน่อย เป็นชาย ชายก็รับไม่ไหวเช่นกันคะ แล้วแครี่รู้เรื่องนี้รึยังคะ” ชานนท์ถาม…อนุชัยสะดุ้งพลางเช็ดน้ำตาลวกๆ “แครี่ นี้ๆ คุณป้า อย่าบอกนะว่า แครายคือลูกสาวของ….”
คุณหญิงพวงพรเข้าใจความนัยน์แค่ครึ่งเดียว “เอาละ วันนี้เป็นไงเป็นกัน ฉันจะพูดมันให้หมดทุกเรื่องไปเลย…” เธอจับหน้าอนุชัยให้มองเธอตรงๆ “ใช่จ้ะ แครี่ หรือหนูแคราย เชาว์ เป็นลูกสาวคนเดียวของอนุชาติ”
อนุชัยทิ้งตัวหงายหลังอย่างคนหมดแรง จนทั้งชานนท์และคุณหญิงพวงพรตกใจในพฤติกรรมของเขา
“แสดงว่า ผมกับ แครี่ เป็นพี่น้องกันรึครับ” อนุชัยลุกมาถามรนๆ อีก
คุณหญิงพวงพรพยักหน้า เอามือลูบหัวเขาไปมา “ใช่จ้ะ….” เธอตอบ ทำให้อนุชัยยิ่งจมดิ่งมากว่าเดิม “แต่…..”
“แต่อะไรครับคุณป้า”
“แต่…เอ่อเมื่อหลายเดือนก่อน ขณะที่อนุชาตินอนอยู่โรงพยาบาล หนูแคร์ไม่สามารถให้เลือดพ่อได้ เพราะหนูแคร์เลือดกรุ๊ป O นะ ขณะที่อนุชาติรวมทั้งตัวเธอด้วยอนุชัยเลือดกรุ๊ป AB RH- ซึ่งเป็นกรุ๊ปเลือดที่ถือว่าหายากมากๆ แม่ของหนูแคร์เธอเลือดกรุ๊ป A พ่อกรุ๊ป AB ลูกที่เกิดมาจะต้องได้เลือดกรุ๊ป A AB หรือ B เท่านั้นไม่มีทางเป็นกรุ๊ป O ได้เลย”
อนุชัยหายใจได้โล่งขึ้น
“นายเป็นไรเนี้ย….” อยู่ๆ ชานนท์ก็สวนขึ้นด้วยความสงสัย
“เรื่องมันนานมาแล้วนะ….” อนุชัย จิ๊! ปากทำเสียงดิกๆ “แล้วมันก็จบไปนานแล้วด้วย”
“นายนี้นา…” ชานนท์หัวเสีย ทั้งคู่ถูกสายตาของคุณหญิงพวงพรอ่านเงียบๆ เธอยิ้ม สุดท้ายเลยแทรกต่อ
“จริงแล้วฉันก็ไม่อยากพูดถึงละนะ ดูจะเสียมารยาทด้วยซ้ำ แต่สิ่งนี้ตาชายจะต้องรู้”
“เกี่ยวอะไรกับชายคะ คุณแม่” ชานนท์ยังหัวเสีย
“เกี่ยวข้องตรงๆ เลยละ เพราะว่าชายกับหนูแคร์เป็นพี่น้องกัน” คุณหญิงพวงพรพูดจบ ทุกคนเงียบ อึ้ง ราวกับโดนสาบ จนอนุชัยที่จ้องชานนท์อยู่ต้องตบหลังเรียกสติ
“อย่าบอกฉันนะว่านายกับแครี่…มี เอ่อ”
“นายหุบปากไปเลย คุณแม่คะ….” ชานนท์จ้องเขม็ง “นี่แสดงว่าคุณแม่รู้เรื่องนี้มานานแล้วใช่ไหมคะ ถึงได้เทียวย้ำชายกันนักกันหนาให้อยู่ห่างๆ แต่ให้รักเธอเอ็นดูเธอมากๆ นะคะ”
“รู้ แม่รู้ตั้งแต่แรกแล้วละ….”
อนุชัยสำรวจเขาแบบจริงๆ จังๆ…. “นาย….”
“ยังโว้ย!….ถึงแครี่ไปอยู่กับฉันที่แวนคูเวอร์ร่วมปี แต่ฉันยังไม่มีอะไรกับเธอ ว่าแต่นายเถอะ งานนี้ต้องเคลียกันยาวๆ ละ”
“เอาน่า!….หยุดๆ ไว้เคลียกันเองละกัน….แม่ต้องไปแล้ว” คุณหญิงพวงพรหันมาจ้องอนุชัยอีกรอบ “อนุชัยพร้อมเมื่อไรบอกป้านะลูก พ่อเค้าคอยตามดูเราทุกฝีก้าวเลยนะ เคยสังเกตบ้างไหมเนี่ย”
“ขอเวลาให้เค้าหน่อยนะคะคุณแม่” ชานนท์ออกรับแทน
“ได้ๆ อย่างนั้นป้าไปละนะ อยากจะสระผม ทำเล็บซะหน่อย…เอ้!” คุณหญิงพวงพรหันไปเห็นข้อความบนกระดานชนวน “ว่าแต่พวกเธอเขียนกฎ กฎ เขกกะโหลก….”
“อะ อะ คุณ แม่คะ” ชานนท์กระโจนขวาง “คุณแม่รีบไม่ใช่หรือคะ ชายว่า ได้เวลาแล้วคะ นะ นะ”
คุณหญิงพวงพรมองอาการของบุตรชาย ก่อนอนุชัยจะเข้าประคองแขนนำเธอออกประตูไปยังรถแบบรีบๆ
“เธอ 2 คนมีอะไรปิดบังฉันแน่ๆ เลย” คุณหญิงพวงพรเลื่อนกระจกรถตะโกนใส่
“ปะ เปล่าครับ/ คะ” ทั้ง 2 ลนลานตอบ จนคุณหญิงพวงพรส่ายหน้าไปมา
“ขอบคุณคุณป้านะครับที่เป็นธุระซื้อของมาให้” อนุชัยส่งท้าย
“ต๊าย!… ดูซิ ฉันลืมทวงเงินตาชายเลย”
“เอาเถอะคะคุณแม่ ชายจะจ่ายดอกเบี้ยให้วันหลังละกัน” ชานนท์เย้า คุณหญิงพวงพรยิ้มโบกมือให้จนประตูไม้สีดำเลื่อนปิดสนิท
“ฉันเอานายตายแน่ๆ” ชานนท์ลากแขนอนุชัยเข้าบ้าน
“เรื่องอะไร”
“ไม่ต้องมาทำตาใสซื่อใส่ฉันเลย จะเรื่องอะไรซะอีก ก็เรื่องน้องสาวฉันไง”
“แครี่นะเหรอ…มันนานมาแล้วน่า ก็ตอนนั้นใครจะไปรู้ว่าเรื่องราวจะเป็นแบบนี้ละ” อนุชัยหน้าเสีย
“เมียฉันทำไมร่านนักน่า…ฮื้อ! ไม่เข้าใจจริงๆ” ชานนท์บ่นขณะนั่งเหยียดยาวกับโซฟาเบทในห้องนั่งเล่น
อนุชัยยิ้มๆ บางก่อนจะก้าวขึ้นนั่งค่อมแล้วยิ้มให้ในแบบของเขา จนชานนท์ที่หัวเสียอยู่แล้วถึงกับตกในภวังค์ “ก็นายเป็นซะแบบเนี้ย ฉันเลยโกรธไม่ลงสักที….” พูดจบก็โยกตัวขึ้นมาจุมพิต “นายใช้หัวใจยิ้มแทนริมฝีปากรึไงเด็กโง่”
“ฉันเป็นพี่นาย…และฉันก็ร่านเฉพาะนายคนเดียวเท่านั้นแหละเด็กโง่เอ้ย!”
ชานนท์หน้าแดงระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังๆ “ฮ่าๆ….ฉันแม่ง!โคตรรักนายเลยวะ เมียจ๋า ฮาๆ”