พึงทำความดี เพราะ ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว อ่านเพิ่มเติม สิ่งที่จีรังยั่งยืนคือความดี
หมวดหมู่: ห้องพระ
ความยึดมั่นถือมั่นเป็นทุกข์
ความยึดมั่นถือมั่นเป็นทุกข์ ธรรมะ จาก ห้องพระ อ่านเพิ่มเติม ความยึดมั่นถือมั่นเป็นทุกข์
สาวเอยพ่อจะบอกให้
สาวเอยพ่อจะบอกให้ ธรรมะดีๆ จาก ห้องพระ
ถ้าเพียงแต่เกิดความสงสัยขึ้นมาเท่านั้น ก็คงไม่มีความหมายอะไร เมื่อเป็นเช่นนี้เชื่อว่า ทุกคนคงต้องการที่จะแก้ปัญหานี้ นี่เองคือสิ่งที่ประเสริฐยิ่ง เพราะจะทำให้เราเข้าถึงสัจธรรม ภูมิปัญญาและความรู้ก็จะสูงส่งก้าวหน้ามากขึ้นเท่านั้นและได้รับการกล่าวขวัญจากผู้อื่นอีกด้วยว่า เป็นคนที่มีอนาคตไกล
แต่สำหรับผู้ที่โชคร้าย ถึงแม้จะมีความสงสัยเกิดขึ้น แต่เขาจะไม่พบจุดที่จะสอนสัจธรรมให้แก่เขาได้ ดังนั้น บุคคลประเภทนี้จึงต้องหลงผิดอยู่ชั่วชีวิต และความสงสัยของเขา ก็ยังคงก่อให้เกิดความสงสัยเรื่อยไปจนกระทั่งพบจุดจบ บางคนอาจจะหัวเราะเยาะและมองข้ามสัจธรรมที่พระพุทธองค์ทรงสอนไว้
มนุษย์เราถ้าไม่เกิดความสงสัยเลยก็ไม่ดีและเมื่อเกิดความสงสัยแล้ว ก็ต้องมีความกล้าพอที่จะแก้ปัญหาข้อสงสัยนั้นให้กระจ่างแจ้งหมดไปด้วย เรื่องนี้เป็นเรื่องที่พ่อสอนลูกสาวด้วยความห่วงใย
อยากรู้ไหม…มีอะไรในมือพ่อ เริ่มจากการที่คุณพ่อเรียกลูกสาวเข้าไปพบและบอกกับลูกสาว
คุณพ่อ : “พ่อมีอะไรจะให้ดู เป็นของสำคัญมากนะ” แล้วคุณพ่อก็หยิบอะไรบางอย่างออกจากกระเป๋าเสื้อ โดยกำสิ่งของไว้ในมือ ไม่ให้ลูกเห็น
คุณพ่อ : “อยากรู้ไหมว่ามีอะไรในมือพ่อ” ลูกสาวพยักหน้าด้วยความสงสัย พ่อเลยยื่นข้อเสนอ
คุณพ่อ : “งั้นเอามือเขกพื้น 3 ที” พอลูกเขกเสร็จตามที่พ่อบอก คุณพ่อพูดอีกว่า
คุณพ่อ : “เปลี่ยนเป็น 10 ที่ดีกว่า” ลูกสาวก็เขกพื้นอีก 10 ที พอเขกเสร็จพ่อพูดอีกว่า
คุณพ่อ : “เพิ่มเป็น 15 ทีแล้วกัน” ด้วยความอยากรู้ ลูกสาวยอมเขกพื้นเพิ่มเป็น 15 ที พร้อมพูดกับพ่อว่า
ลูกสาว : “ลูกอยากรู้จริงๆ ว่าในมือพ่อคืออะไร”
พ่อเลยแบมือออก เผยให้เห็นเหรียญ 5 บาทธรรมดาหนึ่งเหรียญ หลังจากนั้นคุณพ่อก็เอามือกำเหรียญ 5 บาทเหรียญเดิมอีกครั้ง และ ถามลูกสาวว่า อยากดูไหมว่าในมือพ่อมีอะไร ถ้าอยากรู้ต้องเอามือเขกพื้น 5 ที ลูกสาวส่ายหน้าพร้อมกับบอกว่า.
ลูกสาว : “ไม่อยากดูแล้ว” เพราะรู้แล้วว่าในมือพ่อมีอะไร พ่อเลยต่อรอง
คุณพ่อ : “เขกแค่ 1 ทีก็ได้” ลูกสาวยังส่ายหน้า พร้อมกับบอกว่า.
ลูกสาว : “หนูรู้แล้ว หนูไม่อยากดูแล้ว” คุณพ่อเลยบอกว่า
คุณพ่อ : “เอางี้ พ่อให้ดูฟรีๆ ก็ได้เอาหรือเปล่า” ฝ่ายลูกสาวตอบว่า.
ลูกสาว : “ไม่เอา ไม่รู้จะดูไปทำไม ก็รู้อยู่แล้วว่าในมือพ่อมีอะไร”
ได้ฟังเช่นนั้นคุณพ่อเลยสอนลูกสาวว่า เหรียญ 5 ก็เปรียบเสมือนกับสิ่งอันพึงหวงแหนของหญิงสาว ถ้าใครได้รู้ได้เห็นก่อนเวลาอันควรก็จะกลายเป็นของไร้ค่าในทันใด
สาวเอยพ่อจะบอกให้
คุณพ่อ : “นี่แหละลูก ของอะไรที่ยังคงเป็นความลับ น่าสงสัย คนมักยอมทำตามทุกอย่างที่จะได้สมความปราถนา มีความอยากดู อยากรู้ อยากเห็น แต่เมื่อสมปราถนาแล้วดูบ่อยๆ ก็มักจะเบื่อให้ดูฟรีๆ ยังไม่อยากดูเลย เช่นกันสิ่งที่พึงหวงสำหรับสตรีก็เป็นสิ่งที่มีค่า ถ้าใครได้รู้ก่อนเวลาอันควร ก็จะไม่มีค่า ถ้าใครได้รู้ก่อนเวลาอันควร ก็จะไม่มีค่าอะไรอีกต่อไป ไม่ต่างจากเหรียญ 5 บาทที่พ่อให้ลูกดูฟรี”
ความรักของพ่อแม่มีค่ายิ่งสิ่งใด ลูกคนใดมีความกตัญญูต่อพ่อแม่ ถือว่าลูกประเสริฐยิ่ง ยิ่งลูกสาวพ่อแม่ยิ่งเป็นห่วง เหมือนดอกไม้ที่บอบบางยิ่งสวยก็ยิ่งเป็นห่วง เหมือนดอกลิลลี่ที่แสนสวยและหอมด้วย พ่อแม่ยิ่งจัดไว้ในแจกันแก้วมีราคา ลูกล่ะจะเข้าใจหัวอกพ่อแม่หรือเปล่า หรือมีความรักแล้วทำให้ตาบอด มีประสบการณ์ของหญิงมากมายที่ไม่เชื่อฟังพ่อแม่ ที่ต้องผิดหวัง บางคนยังไม่สงสารพ่อแม่คิดจะฆ่าตัวตายอีก ขอให้หยุดความคิดแบบนี้ ขอให้ยืนสู้ต่อไปพ่อแม่รักและห่วงใยถึงได้ใส่ใจห่วงใย พร่ำบ่นพร่ำสอน กลับใจเสียใหม่ยังไม่สายเกินไป
จิตใจดีย่อมได้สิ่งที่ดี
จิตใจดีย่อมได้สิ่งที่ดี สาระธรรมดีๆ จาก ห้องพระ ทรงอาจดอททูเดย์
ความรู้สึกขอบคุณก่อให้เกิดสิ่งที่น่าขอบคุณ ความรู้สึกไม่พอใจจะยิ่งนำไปสู่ความไม่พอใจ นี่คือสัจธรรมอันถ่องแท้ เพราะจิตใจที่รู้สำนึกในความขอบคุณจะส่งถ่ายไปถึงพระ แต่จิตใจที่รู้สึกไม่พอใจจะส่งถ่ายไปถึงมาร จากเหตุผลนี้เอง ถ้าหากผู้ใดมีความรู้สึกขอบคุณอยู่เสมอจะทำให้เขาเป็นสุขโดยธรรมชาติ แต่ถ้าผู้ใดเอาแต่พร่ำบ่น และแสดงความไม่พอใจอยู่ตลอดเวลาย่อมทำให้เขาเป็นทุกข์ ดังคำสอนของศาสนาหนึ่งที่ว่า”ถ้าเรายินดีเราก็จะได้พบแต่สิ่งที่น่ายินดี” นี่คือหลักความจริง ถ้าเราทำตามคำแนะนำ ก็จะสามารถแก้ไขปัญหาต่างๆได้ บวกเพิ่มความจริงใจเป็นพื้นฐานด้วยแล้วก็จะเป็นผู้ที่มีความก้าวหน้าในหน้าที่การงานและประสบโชคดีในที่สุด
เรื่องเล่าของวันนี้เป็นเรื่องเล่าของชายหนุ่มคนหนึ่ง เดินเข้าไปเลือกซื้อชามในร้านแห่งหนึ่ง เขาหยิบชามใบหนึ่งขึ้นมา เมื่อเห็นชามใบที่ถูกใจก็เอาชามที่อยู่ในมือนั้นเคาะไปยังชามใบที่ถูกใจเพื่อฟังเสียงชามกระทบกัน เมื่อชามทั้งสองใบกระทบกันกลายเป็นเสียงหนักๆ ไม่ดังกังวานเหมือนที่เขาคิด เขารู้สึกผิดหวังได้แต่ส่ายหัวไปมา จากนั้นเขาก็ได้เลือกชามใบใหม่ ใบแล้วใบเล่าจนชามทุกใบถูกนำมาเคาะ แต่ผลที่ออกมาทำให้เขาส่ายหน้าและผิดหวังทุกใบ ไม่มีใบใดที่ทำให้เขาพอใจได้เลย แม้แต่ใบที่เถ้าแก่เลือกให้ ซึ่งเป็นชามเกรด A เขาก็ยังส่ายหน้าไม่พอใจอยู่ดี
ด้วยความสงสัยของเถ้าแก่ จึงถามชายหนุ่มว่า “คุณเอาชามมาเคาะกันทำไม?”
“อาจารย์ท่านหนึ่งสอนผมว่า หากจะซื้อชาม ให้เอาชามมาเคาะกันหากเสียงชามกังวานนั่นแปลว่า ชามใบนั้นมีคุณภาพครับ” ชายหนุ่มตอบเถ้าแก่เจ้าของร้าน
เจ้าของร้านหยิบชามใบหนึ่งขึ้นมาส่งให้เขาแล้วบอกกับเขาว่า “พ่อหนุ่มคุณลองเอาชามใบนี้ไปเคาะกับชามใบอื่นดูสิ ฉันเชื่อว่าคุณน่าจะได้ชามที่คุณพอใจ”
เขารับชามใบนั้นมาแบบเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่ก็ลองทำตามที่เถ้าแก่บอก น่าแปลกจริงๆ ไม่ว่าเขาหยิบชามใบใดขึ้นมา เมื่อเอาขึ้นมาเคาะกับชามที่เถ้าแก่หยิบให้ทุกชามทุกใบต่างก็ดังกังวาน เหมือนที่อาจารย์ท่านนั้นได้บอกแก่เขา
“แปลกจริงๆ ครับ ทำไมชามใบนี้ถึงพิเศษแบบนี้ละครับ มันต่างจากชามที่ผมหยิบมาเมื่อสักครู่นี้ยังไง?”
เถ้าแก่อมยิ้มชอบใจ เฉลยให้ชายหนุ่มฟังว่า “ชามใบนี้ไม่ได้มีอะไรพิเศษกว่าชามใบอื่นแต่อย่างใด ที่มันต่างกันเพราะชามที่คุณหยิบมาเมื่อสักครู่นี้ มันเป็นชามที่มีรอยร้าว เมื่อคุณเอาไปเคาะกับชามใบใดๆ มันจะมีเสียงกังวานได้ยังไง หากคุณต้องการชามดีๆ สักใบ คุณต้องมั่นใจก่อนว่า ชามที่อยู่ในมือของคุณก็เป็นชามที่มีคุณภาพเหมือนกัน!”
เรื่องนี้อ่านแล้วให้ได้คิดว่า ชามที่มีรอยร้าวเปรียบดังใจที่มีตำหนิใจที่ไม่พอใจ ใจที่อคติ ใจที่ไม่บริสุทธิ์ ยามนำใจนี้ไปประเมินสิ่งใด สิ่งที่ถูกประเมินก็จะดูด้อยค่า มีตำหนิมีจุดยกพร่องมากมาย การที่มัวแต่เพ่งโทษไปรอบข้าง ลืมเพ่งโทษตนเอง ต่อให้รอบข้างสวยงาม ดีเลิศเพียงใด ใจที่มีอคติก็มองเข้าไปไม่เห็นความสวยงามเหล่านั้น
จิตใจดีย่อมได้สิ่งที่ดี
จงซ่อมแซมดูแลใจรักษาใจอย่าให้มีรอยร้าว อย่าให้ตำหนิ อย่าให้มีอคติแล้วโลกรอบตัวจะน่าอยู่ขึ้นมาทันที ให้มีความรู้สึกขอบคุณตลอดเวลาทุกขณะจิตเลยทีเดียว เรื่องของใจที่มีอคติมีอยู่มากมาย แม้แต่ดอกไม้ อย่างดอกชบา กิ่งของชบาก็เป็นกิ่งที่สวยงาม มีดอกก็สวยงาม ครั้นโบราณจะใช้ดอกชบาสีแดง มาร้อยเป็นพวงมาลัยคล้องคอประจานผู้หญิงที่ถูกจับได้ว่ามีชู้ เลยเป็นสัญลักษณ์ที่ไม่เป็นธรรมกับดอกไม้เท่าไร เหมือนชายผู้นี้ตัวเองไม่โทษตัวเอง กลับโทษชามไม่มีดี ดังสุภาษิต “รำไม่ดี โทษปี่โทษกลอง”
รวบรวมและเรียบเรียงธรรมะดีๆ โดย พเยาว์
สายใยวิญญาณแห่งรัก
สายใยแห่งรัก อันยิ่งใหญ่ อ่านเพิ่มเติม สายใยวิญญาณแห่งรัก
ความพอดีและความดีพอ
ความพอดี และ ความดีพอ
หากเราใช้ “ความพอดี” เป็
“จำคำข้าไว้นะ หนทางนี้จะว่าใกล้ก็ไม่ใกล้ จะว่าไกลก็ไม่ไกล ตลอดเส้นทางจะมีมารคอยหลอกล่
วันแรก ที่ออกเดินทางเป็นป่าทึ
ความพอดี
ในการเดินทางของพวกลิงทั้ง 4 นี้
จึงใช้ชีวิตหมดไป กับความโลภ ความโกรธ ความหลงในเรื่องต่างๆ โดยไม่รู้ว่าตัวเองหลงอยู่ อีกทั้งคนทั่วๆ ไป ยังมีแต่ความลุ่มหลงในวัตถุ ในการเดินทาง และชื่อเสียง ฯลฯ
จึงหมดเวลาในชีวิตชาติหนึ่งๆ ไปอย่างน่าเสียดาย ใช้ชีวิตโดยไม่ได้ทำให้จิตพั
รวบรวมและเรียบเรียงธรรมะดีๆ โดย พเยาว์