กรรมติดwifi คิดบวกความสุขในมุมเล็กๆ
กรรมติดwifi
วันนี้จะไปเที่ยวเขาใหญ่กัน ผม โจ หน่อง พิมพ์ และปอพร้อมแล้วนะ เห็นไอ้หน่องเจ้าของความคิดบอกจะพาไปเที่ยวไร่องุ่นเพื่อนพ่อมัน มีรีสอร์ตให้พักฟรี 1 คืนไม่ไปก็โง่ละจริงไหมครับ?
Are you ready? ถ้าพร้อมแล้ว มา! ขึ้นรถเลยยยยย….
แดดจะเที่ยงแล้วละ เมื่อคนพร้อมรถฟอร์จูนเนอร์ของไอ้หน่องก็ได้เวลาออกเดินทาง ทริปนี้เราวางแผนกันไว้ 2 วันกับหนึ่งคืน โดยมีรีสอร์ตในไร่องุ่นของเพื่อนพ่อมันเป็นจุดหมายปลายทาง 3 หนุ่มกับ 2 สาว พิมพ์กับปอเพื่อนซี้ต่างมุมวัย 23 ปีก็เริงร่า-สดใส เพราะหลังจากเรียนจบก็ทริปนี้แหละที่คนทั้ง 5 มารวมตัวกัน ขาดแต่เพียงนังโจ๋กระเทยควายเท่านั้นที่รับปากจะไปรอรับพวกเราที่เขาใหญ่ เพราะมันเป็นคนเดียวเลือกจะทำงานในโคราช
#ถาปัด ปกป้อง คุมครอง วิลัย – บ้างขุดปู – บ้างก็เลี้ยงควาย – บ้างก็ลักเสื้อผ้าเขาไปขาย ดูด กัญชา เป็น นิจอาจิณ เหล้าก็กิน สิ้นเดือน-ชักดาบ เมาแล้วอาละวาดทั่วทั้งวิลัย#
เมื่อทั้งหมดเข้ามารวมกันในห้องโดยสาร เพลงมาร์ทที่พวกเราร้องเป็นประจำก็ดังขึ้นตามความเร็วของฟอร์จูนเนอร์ พอถึงจังหวัดสระบุรีรถยนต์ก็เลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนมิตรภาพและตรงดิ่งไปยังอำเภอปากช่องอันเป็นเป้าหมาย
#แล้วพวกเราซิ ต่าง มี ของ ดี คือทีสไล้ท์ มีแอ็ดจัสเป็นพลาสติก และมีล็อตติ้งเหน็บงามวิไล ตึง ตึง#
“เดี๋ยวๆ พวกมึงหยุดแหกปากสักแป๊บ แม่ไอ้โจโทรมา”
“ฮ่า ฮา ฮ้า ต้องเป็นอีโจ๋แน่ๆ”
“ส้นตีน…แม่มึงดิ…อีพวกห่านิ ถามมันดิ ถึงไหนละ”
“ฮ่า ฮา ฮา…OKๆ…ถึงไหนแล้ววะคนงาม” ปอเป็นคนถาม
#ถึงรีสอร์ตสักชั่วโมงแล้ว…แล้วพวกมึงละ#
“เออๆ มึงรอพวกกูอยู่ตรงนั้นแหละ อีกไม่เกิน 2 ชั่วโมงถึงแน่นอน”
#OK ใครขับรถ#
“ไอ้หน่องแฟนมึงไง ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
“พวกเชี้ย! เอ้ย…กูอุตส่าห์ขับรถของกูเงียบๆ แล้วนะ”
ฮ่า ฮา ฮ้า มึงก็ เล่นไปตามบทซิ เดี๋ยวก็ดีเอง” ไอ้โจแนะพลางปรบมือถูกอกถูกใจอยู่หน้ารถ
“เออๆ….บอกมันล้างตูดไว้รอเลยอีกไม่เกิน 2 ชั่วโมง ไอ้พวกเลว”
เราสนุกสนานกันแบบสุดขีด ขณะที่ความเร็วของฟอร์จูนเนอร์ก็พุ่งขึ้นไปอีกหลายไมล์ต่อชั่วโมง
พ่อไอ้หน่องทำธุรกิจส่งออก-นำเข้าครับ ส่วนเพื่อนพ่อมันแต่ก่อนก็ทำงานด้วยกันพอภรรยาเสนอที่ดินที่เขาใหญ่ให้…ไอเดียร์เขาเลยบรรเจิด ลงทุนลาออกจากงานประจำมาสร้างรีสอร์ตและไร่องุ่นส่งโรงงานทำไวน์ ก็ท่าจะไปได้สวยนะจากเดิมมีที่ดินแค่ 4 ไร่เศษ ปัจจุบันขยายเกือบ 30 ไร่ไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนรีสอร์ตที่เราจะเข้าพักเป็นรีสอร์ตชั้นเดียว 2 หลังคู่ กระเทยกับผู้หญิงหลังหนึ่ง ผมโจ และไอ้หน่องอีกหลังหนึ่ง แต่เชื่อเถอะคืนนี้ไม่ได้นอนแน่ๆ เพราะไม่ได้เจอกัน 2 ถึง 3 ปีมีเหรอจะไม่สว่าง ก็ว่ากันไป
เราวนรถจากถนนมิตรภาพเข้าสู่เขาใหญ่ จากสะพานข้ามแยกไม่ถึง 30 กิโลเมตรไอ้หน่องก็เลี้ยวซ้ายวนขึ้นเขา ภาพแดดสีขาวสลับแนวต้นไม้สีเขียวทึมๆ ของยอดเขาที่มองเห็นอยู่ไกลๆ ก็ทำให้บรรยากาศในรถเงียบลงชั่วขณะ ทุกคนต่างหลบเสพบรรยากาศมุมใครมุมมันกระทั้งไอ้หน่องเลี้ยวเข้าไปในไร่องุ่นขนาดใหญ่เสียงมันจึงดังขึ้น
“ถึงแล้ว เป็นไงละสวยไหม”
“เออ…มิน่าเพื่อนพ่อมึงถึงได้ลาออกจากงานประจำทิ้งเดือนหลายแสน…” โจว่าต่อลอยๆ
“เป็นฉัน ฉันก็ลาออกวะ…อยู่กับธรรมชาติมันดีต่อจิตใจจริงๆ…เธอว่าไหมปอ”
“แต่ฉันกลัวนะพิมพ์….คิดถึงเวลากลางคืนซิแก”
“เออวะ….”
“ผีไม่มีหรอกพวกห่า…กลัวไรวะเย็นๆ ร่มรื่นสบายจะตาย”
“พวกฉันไม่ได้กลัวผียะ…..” พิมพ์แทรก ก่อนเสียงปอจะตามขึ้น
“กลัวเสือ…งู…และ…อื้ย….ทากอีกเยอะแยะ”
“เหรอ….นึกว่ากลัวผู้ชาย”
“เงียบไปเลย Timmy มีไหม ถ้ามีฉันจะย้ายมาอยู่พรุ่งนี้เลย…ไอ้บ้า”
“ฮ่า ฮา ฮา ใช่ ฉานขอย้ายมาด้วยคนนะปอ”
“ได้ๆ แต่ห้ามข้ามเขตแดนนะยะ! ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
“ไอ้พวกห่านี้ เอ่ยถึงไอติมเป็นไม่ได้ แย่งกันยังกะชิงเปรต ฮ่า ฮ้า ฮา ฮา” หน่องแหกปากหัวเราะจนรถยนต์เคลื่อนเข้าไปจอดข้างรถซีวิคสีเงินที่มีกระเทยควายยืนฉีกยิ้มรออยู่ข้างๆ
“นั้นไงไอ้หน่องเมียมึงรออยู่แล้ว”
“เออวะ…คืนนี้กูเสียสละห้องให้…ยอมไปนอนใต้เตียงห้องโจกับ Timmy เลยเอาซิ”
“อย่าปากหมาให้อีโจ๋มันได้ยินนะมึง เกิดมันบ้าข่มขืนกูขึ้นมาจริงๆ แล้วใครจะรับผิดชอบ…”
“เออวะ…ฮ่า ฮา ฮ้า ฮา”
หลังจากเราเข้าไปรายงานตัวกับเพื่อนพ่อไอ้หน่องจนครบทุกคนแล้ว น้องพนักงานสาวในรีสอร์ตก็นำเราทั้ง 6 ชีวิตไปยังบ้านพักที่แทรกตัวกระจายอยู่ตามเนินเขา ต้นไม้ และป่าหนาๆ ทางทิศเหนือ เมื่อขึ้นไปยืนบนระเบียงโล่งๆ สุดลูกหูลูกตาก็จะเป็นแนวต้นองุ่นที่ปลูกเป็นแถวยาวเลื้อยไปทางทิศใต้ที่เห็นเป็นเนินสูงอยู่ลิบๆ
“บ่ายเย็นๆ กูจะพาขับรถเที่ยวรอบๆ” ไอ้หน่องบอกหลังจากจัดสัมภาระเข้าที่เรียบร้อยแล้ว
“OK…แต่ตอนนี้หาอะไรกินกันก่อนไหมอะ ฉานหิวละ” อีโจ๋พูด
“แหมๆ…ผัวเมียคู่นี้เข้าขากันดีเหลือเกินเนอะ…พวกมึงจะย้ายไปนอนห้องเดียวกันเลยก็ได้นะโว้ย…กูไว้ใจได้โดยเฉพาะสาวๆ”
“ใครไปไว้ใจมึงไอ้โจ…ไปกินข้าวก่อนเถอะฉันก็หิวละ”
ฮ่า ฮ่า ฮ่า… ครับหลังจบอาหารเที่ยงที่ร้านอาหารในไร่องุ่นเรียบร้อยแล้ว ตะวันบ่ายๆ ที่เขาใหญ่ก็ร้อนอะนะ แต่วิวและทิวทัศน์ที่อยู่ตรงหน้าทำให้อุณหภูมิลดลงได้หลายองศา ไอ้หน่องพาเราขับรถวนไปดูที่โน้นที่นี่ จนคิดว่าทั่วเขาใหญ่ แดดเย็นๆ เราก็กลับมายังไร่องุ่นของเพื่อนพ่อมันอีกครั้ง แต่คราวนี้เราวนรถไปตามถนนลาดยางเล็กๆ แทรกไปตามแถวองุ่นทีละแถวทีละแนว สาวๆ ลงไปเซลฟี่กับพวงองุ่นสีดำลูกใหญ่ๆ จนเพลิน
“ปอๆ พวงนี้ใหญ่กว่า สีสวยมากๆ ด้วย”
“เออ เหรอๆ ไหนฉันของเซลฟี่คนเดียวมั่งดิ….แหมท่าจะหวานมากๆ เลยเนอะ ถ้าไม่ติดปรับลูกละ 500 บาท ฉันเด็ดกินแล้วเนี้ย”
“เอาไหมละ…เพื่อนพ่อกูใจดี เขาไม่ว่าหรอก”
“มึงนับดูลูกซินั้นนะพวงหนึ่งมีกี่ลูกแล้วคูณด้วย 500 เข้าไป มึงมีตังจ่ายเค้าเหรอ” นังโจ๋แจ๋นซะยืดยาวกระนั้นหล่อนก็ทำท่าจะเด็ดพวงโน้นพวงนั้นอยู่ล่ำไป
“ไม่มีใครรู้หรอกมึงองุ่นตั้งหลายแถวหลายไร่ใครจะบ้ามานั่งนับวะ” พูดจบไอ้หน่องก็เด็ดพวงองุ่นนอกสีดำลูกใหญ่พอๆ หัวแม่มือมา 2 พวง
“ไอ้หน่อง!…” เสียงพิมพ์ดุแต่ก็วิ่งตามกลับมายังรถ
“อ้าวๆ…กินกันเข้าไปพวกมึง….มากับกูสบายไปสิบอย่าง”
………
แต่อีกมุมหนึ่งของไร่…แดดสีขาวกำลังเคลื่อนวนเข้าสู่เฉดสีวะนิลาอุ่นๆ ลุงเฝ้าไร่ในมุมที่พวกเราไม่เห็นก็ถอดหมวกปีกกว้างแกว่ง-โปกไปมาพร้อมกับวิ่งหน้าตื่นตรงมาหาเราอย่างไม่คิดชีวิต
“เฮ้ย…ไอ้หนุ่ม…ไอ้หนู…อย่างเด็ดองุ่น เฮ้ยยยยย….อย่างเด็ดองุ่นแถวนั้น”
………
กลับมาที่รถอีกครั้ง
“นั้นไงงานเข้าละ…เอาไงดีละทีเนี้ย”
“แดกๆ เข้าไปซิ…Timmy มึงด้วย รีบๆ โกยเข้าปากเร็วเข้า”
“ทำลายหลักฐานอย่าให้เหลือ”
“เก็บซ่อนไว้ก่อนก็ได้ตั้งเยอะใครจะกินหมด”
“เออน่า คนละลูก 2 ลูกเดี๋ยวก็หมดเอง เกิดค้นรถเจอแล้วจะเป็นเรื่อง ลูกละ 500 บาทเชียวนะมึง”
“แม่งมึงเด็ดมาทำไมวะ”
“อย่าพูดมาก แดกๆ เข้าไปแล้วเก็บก้านยัดใส่กระเป๋าให้เรียบร้อย”
………
“เฮ้ย ไอ้หนู….ไอ้หนุ่ม….”
……….
“นั้นไงลุงใกล้เข้ามาละ หมดยัง”
“เออ….แม่งหวานดีวะ เร็วเข้าอีปอ ยัดมันเข้าไปให้หมด….”
“หวานมากๆ เลยอร่อยด้วย”
……….
“อย่า….อย่า….ไอ้หนู…..อย่า…..”
………
“หมดยัง…หมดยัง ก้านนั้นนะทำลายหลักฐานให้เรียบร้อย” ไอ้หน่องกำกับการแสดงเสร็จสับก่อนจะพูดขึ้นมาอีก “พวกมึงเฉยๆ ไว้นะ…เดี๋ยวกูจัดการเอง”
“เออๆ….มึงตัวหาเรื่องชัดๆ”
“ควาย!…แล้วอร่อยไหมละ”
“เงียบๆ แกเดินใกล้เข้ามาละ….”
“เฮ้ย…ไอ้หนุ่ม…”
“หวัดดีครับลุงมีอะไรเหรอครับ” ไอ้หน่องถามหลังจากเช็ดคราบองุ่นที่ติดอยู่มุมปากเรียบร้อยแล้ว
“โอ้ยเหนื่อยวะ…ตะกี้พวกเอ็งได้เด็ดองุ่นไปกินรึเปล่า” ลุงเอาหมวกปีกกว้างมาพัดวีระบายความร้อน ขณะที่ใบหน้าแกเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก
“ปะ เปล่าครับลุง เราแค่ลงไปถ่ายรูปเฉยๆ” ไอ้หน่องบอกขณะก้าวขาลงไปยืนคุยคู่กับแก
“ไม่ได้เด็ดไปกินแน่นะ”
“แน่ครับลุง ถามเพื่อนผมก็ได้”
“ใช่ครับ พวกเราลงไปเซลฟี่เฉยๆ”
“นี้คะหลักฐาน พวกหนูแค่ถ่ายรูปเฉยๆ จริงคะลุง”
“จริงๆ นะ….อย่าหลอกคนแก่นะ” เหมือนลุงจะไม่เชื่อง่ายๆ กระทั้งพวกเรายืนยันครบทุกคน สีหน้าของแกเลยดีขึ้น
“แล้วไป ลุงก็ตกใจหมดนึกว่าพวกเอ็งเด็ดไปกิน เพราะแถวนี้ลุงเพิ่งฉีดยาไปเมื่อเช้า”
“อ้าว!…..ตายห่าละกู”
“ไอ้หน่องขึ้นรถ กรรมติด WIFI แล้วเว้ย”
“อ๊าก…ฮื้อๆ กูกินเข้าไปเยอะกว่าชาวบ้านด้วยจะทำอย่างไรดี”
“มึงวนรถออกไปหาซื้อไข่ก่อนเลย…ฮื้อๆ กูไม่น่าเชื่อไอ้เชี้ย! หน่องมันเลยจริงๆ”
ครับและคืนนั้นแทนที่จะได้นั่งกินเหล้า เราทั้งหมดกลับต้องมานั่งแยกไข่ขาวกรอกปากกันจนอ๊วกแตกอ๊วกแตนทั้งคืน เช้าวันต่อมา ไอ้หน่องจึงเข้าไปสารภาพบาปกับเพื่อนพ่อมันด้วยอาการคนครึ่งหลับครึ่งตื่นสะโหลสะเหล…
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า….พ่อก็สงสัยอยู่พวกเอ็งมาคราวนี้ทำไมหน้าตาไม่ค่อยเบิกบานกันเลยวะ….”
“กินไข่ขาวอ๊วกแตกกันทั้งคืน คุณพ่อมียาแก้สารพิษหรือเปล่าครับ”
“ฮา ฮา ฮ่า ฮ้า….อ๊วกกันทิ้งหมดทุกคนแล้วใช่ไหม”
“มีไอ้โจนั้นแหละพ่อกินน้อยสุดอ๊วกแค่ครั้งเดียว”
“ถ้าพ่อมียาขอกินป้องกันไว้ก่อนนะครับ ไม่อย่างนั้นผมคงนอนไม่หลับไปอีกหลายคืน”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า” เพื่อนพ่อไอ้หน่องทำอะไรไม่ถูกได้แต่หัวเราะงอหายจนหน้าแดงน้ำตาเล็ดน้ำตาร่วงหลายยกก่อนจะตอบพวกเราว่า
“พวกเอ็งโดนลุงหลอกแล้วละ องุ่นใกล้ตัดใครเขาจะฉีดยากัน ฮ่า ฮ่า ฮ้า ฮ้า ฮ่า ฮา ฮา”
ครับคิดบวกความสุขในมุมเล็กๆ ตอนกรรมติด WIFI ก็จบด้วยประการฉะนี้…อยากจะเขียนอะไรที่ผ่อนคลายบ้างสักตอน ผม Timmy ก็ได้แต่หวังว่าทุกท่านน่าจะยิ้มได้ หัวเราะได้ เมื่อหัวเราะเราก็จะสบายตัวสบายใจ….เฮ้ย!…คิดไปคิดมายังเคืองไอ้หน่องไม่หาย…พบกันใหม่ในตอนหน้าติดตามไปเรื่อยๆ หากมีอะไรดีๆ ผมจะหยิบมาแชร์ให้ได้อ่านกันแน่นอน สวัสดีครับ