หุบเขาต้องห้ามย้อนหลัง
หลังยุคเปลี่ยนแปลงการปกครอง หมู่บ้านในชนบทของจีนหลายแห่งยังยึดติดอยู่ในค่านิยมแบบเดิม อย่างเช่น “หมู่บ้านร่มเย็น” ที่ผู้ชายในหมู่บ้านนี้มีอำนาจมากที่สุด ผู้หญิงมีหน้าที่ใช้แรงงาน ทำอาหาร ปรนนิบัติผู้ชายและกำเนิดบุตรเท่านั้น หัวหน้าหมู่บ้านคือ ลู่จินกู่ มีภรรยา 4 คน ภรรยาหลวงคือ อู่เชียนสือ เคร่งครัดในธรรม ภรรยารองคือ ซ่งหมิงฟ่ง เต็มไปด้วยเล่ห์กล ภรรยาคนที่สามคือ กู้เหม่ยหยี มีฝีมือการดีดพิณไพเราะ ภรรยาคนที่ 4 คือ เถียนฉู่อี่ แต่เดิมเป็นสาวใช้ในบ้านมาก่อน บุตรชายคนโตของลู่จินกู่คือ ลู่สุ่ยเฟิง เดินทางไปแสวงโชคในอเมริกากลับมาบ้านเกิดอีกครั้งพร้อมด้วยหวังจะขุดพบเหมืองทองในหมู่บ้านของเขา
ลู่สุ่ยเฟิงได้แอบแต่งงานกับ หลอกุ้ยซือ หญิงสาวหัวสมัยใหม่ซึ่งเมื่อมาเห็นวิถีชีวิตของผู้หญิงในหมู่บ้านร่มเย็นทำให้เธอคิดจะสร้างความเปลี่ยนแปลง ความเป็นคนสมัยใหม่ของลูกสะใภ้และการที่ลู่สุ่ยเฟิงแอบไปแต่งงานโดยไม่บอกกล่าวสร้างความไม่พอใจให้กับลู่จินกู่เป็นอย่างมาก ในขณะเดียวกันในหมู่บ้านร่มเย็นก็มีข่าวลือเกี่ยวกับวิญญาณแม่ม่ายชิงหลันที่เสียชีวิตอย่างไม่เป็นธรรมมาคอยหลอกหลอนผู้คนในหมู่บ้านอีกด้วย
เกี่ยวกับ ช่อง 9 เอ็มคอตเอชดี
สถานีโทรทัศน์เอ็มคอตเอชดี (อังกฤษ: MCOT HD; ชื่อเดิม: สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีช่อง 4 บางขุนพรหม, สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 9 บางลำพู, สถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 9 อ.ส.ม.ท., สถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ทีวี) หรือ ช่อง 9 เอ็มคอตเอชดี (อังกฤษ: 9 MCOT HD) เป็นสถานีโทรทัศน์ภาคพื้นดิน (Terrestrial Television) แห่งแรกของประเทศไทย ของบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เริ่มแพร่ภาพเป็นปฐมฤกษ์ เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2498 ในระบบวีเอชเอฟ เดิมออกอากาศเป็นภาพขาวดำ ทางช่องสัญญาณที่ 4 ต่อมาในปี พ.ศ. 2517 จึงย้ายมาออกอากาศด้วยภาพสี ทางช่องสัญญาณที่ 9 จนถึงปัจจุบัน สังกัด สำนักนายกรัฐมนตรี โดยมีนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้กำกับดูแล มีพลเอก ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข เป็นประธานกรรมการบริษัท และนายเขมทัตต์ พลเดชเป็นกรรมการผู้อำนวยการใหญ่
ประวัติ
เมื่อปี พ.ศ. 2492 สรรพสิริ วิรยศิริ ผู้สื่อข่าวต่างประเทศของกรมโฆษณาการ (กรมประชาสัมพันธ์ในปัจจุบัน) เขียนบทความขึ้นบทหนึ่ง เพื่อแนะนำให้ผู้อ่านรู้จักกับ "วิทยุภาพ" อันเป็นเทคโนโลยีการสื่อสารชนิดใหม่ของโลก ต่อมา กรมโฆษณาการ (กรมประชาสัมพันธ์ในปัจจุบัน) ส่งข้าราชการของกรมฯ กลุ่มหนึ่ง ไปศึกษางานวิทยุโทรภาพที่สหราชอาณาจักร ในราวปี พ.ศ. 2493 เมื่อเล็งเห็นประโยชน์มหาศาลต่อประเทศชาติ กรมประชาสัมพันธ์จึงนำเสนอ "โครงการจัดตั้งวิทยุโทรภาพ" ต่อจอมพลแปลก พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี แต่เนื่องจากสภาผู้แทนราษฎรส่วนมาก แสดงความไม่เห็นด้วยอย่างรุนแรง เนื่องจากเห็นว่าเป็นการสิ้นเปลืองต่องบประมาณแผ่นดินโดยเปล่าประโยชน์ จึงจำเป็นต้องยุติโครงการดังกล่าวลง
หลังจากนั้น ประสิทธิ์ ทวีสิน ประธานกรรมการบริษัท วิเชียรวิทยุและโทรภาพ จำกัด นำเครื่องส่งวิทยุโทรภาพ 1 เครื่อง พร้อมเครื่องรับจำนวน 4 เครื่อง ซึ่งมีน้ำหนักรวมกว่า 2,000 กิโลกรัม มาทำการทดลองส่งแพร่ภาพในทำเนียบรัฐบาล ให้คณะรัฐมนตรีได้รับชม นับเป็นครั้งแรกในประเทศไทย และยังเปิดฉายให้ประชาชนทั่วไป ทดลองรับชมที่ศาลาเฉลิมกรุงด้วย เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2495
ยุติออกอากาศในระบบอนาล็อก
ภาพที่แสดงหลังยุติการแพร่ภาพระบบอนาล็อก(PAL 576i 16:9) ในวันที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2561 เวลา 18:30 น. ได้ยุติการออกอากาศโทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบแอนะล็อกจากสถานีเครื่องส่งโทรทัศน์ 13 สถานี เป็นลำดับแรก โดยมีผลกระทบต่อผู้ชมในพื้นที่ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน (รวมไปถึงที่อำเภอแม่สะเรียง) จังหวัดน่าน จังหวัดตาก จังหวัดเพชรบูรณ์ จังหวัดเลย จังหวัดสกลนคร จังหวัดมุกดาหาร จังหวัดสระแก้ว จังหวัดชุมพร จังหวัดระนอง (รวมไปถึงอำเภอตะกั่วป่า) จังหวัดสตูล และในวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 เวลา 18:30 น. ช่อง 9 เอ็มคอตเอชดี ได้ทำการยุติการแพร่ภาพในระบบอนาล็อกครบทุกพื้นที่ในประเทศ โดยยุติการแพร่ภาพจากสถานีเครื่องส่งโทรทัศน์ที่เหลืออีก 23 สถานี ซึ่งรวมไปถึงสถานีในกรุงเทพมหานครซึ่งยุติการออกอากาศเป็นลำดับสุดท้าย เนื่องจากโครงข่ายการออกอากาศโทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบดิจิทัลของบมจ.อสมท ให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศแล้ว และเหลือแต่เพียงแค่การออกอากาศในระบบดิจิทัล ทางช่องหมายเลข 30 (ภาพความคมชัดสูง) แต่เพียงอย่างเดียว
