กฎเขกกะโหลก เป็นเช่นไร อ่านได้ใน ตอนนี้ ฉันกับนางฟ้าตัวกลม ตอนที่40 นิยายอ่านฟรีจบเรื่อง
ฉันกับนางฟ้าตัวกลม ตอนที่40
ตอนที่ 40 “อย่าเรียกผมว่าอนุชาย 1”
ดร.เดียร์เนียวรองรัฐมนตรีว่าการกระทรวง………….
28 เมษายน 2017
….ผมชื่อ เดียร์เนียว ส่วนชื่อจริงขอไม่เปิดเผยก็แล้วกันนะครับ เป็นอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เคยดำรงตำแหน่งรองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงหนึ่งมานะครับ ปัจจุบันว่างงานรึเปล่า ก็ไม่เชิง ผมเปิดบริษัท W.T.V. วีซ่า จำกัด เล็กๆ น้อยๆ นะครับสนุกๆ แต่ส่วนใหญ่จะช่วยงานที่บ้านอยู่ฝ่ายต่างประเทศต้องบินไปเจรจาธุรกิจบ่อยๆ แต่งงานแล้วครับมีลูกชายวัย 6 ขวบ 1 คน ชื่อน้องปีใหม่ครับ ปีหน้ากะว่าจะให้เขาย้ายไปเรียนที่ซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา โรงเรียนเก่าของผมเอง แม่เขาจะตามไปดูแล….วันนี้ผมว่างเลยกะจะเคลียร์อัลบั้มรูปเก่าๆ สมัยยังใช้กล้องฟิล์ม แต่บังเอิญได้เจอเข้ากับอัลบั้มหนึ่งที่รู้สึกคุ้นตาเหลือเกิน ลายมือที่เขียนด้วยตัวหนังสือกว้างๆ ยาวๆ ว่า “กฎเขกกะโหลก” คงไม่ใช่ใครนอกจากเขา ผมค่อยๆ เปิดดูภาพที่ละแผ่น ที่ละหน้า ที่มีสีเมจิกสีแดงเขียนกฎบ้าๆ กำกับใต้ภาพชายหนุ่ม 2 คนกำลังยอกล้อกันในอาริยาบถต่างๆ
“กฎเขกกะโหลก”
1. ท่าบอกรัก ให้ใช้มือข้างใดข้างหนึ่งลูบที่กะโหลก อนุญาตให้ตีเบาๆได้
2. ท่าบอกหมั่นไส้หรือบอกรำคาญ ให้เขกกะโหลกได้ แต่ห้ามแรง
3. ท่าบอกโกรธ แต่ยังรักอยู่ ให้ใช้ฝ่ามือตบหน้าหรือกะโหลกส่วนใดส่วนหนึ่ง น้ำหนักที่ ตบอยู่ที่อารมณ์โกรธนั้น ซึ่งผู้ถูกตบจะต้องประเมินเอง
4. ท่าบอกเกลียดหรือบอกเลิกให้ใช้กำปั้นชกเข้าตรงๆ ที่ใบหน้า หรือกะโหลกส่วนใดส่วนหนึ่งแรงสุดชีวิต….
….ผมเผลอหลับตานึกถึงความรู้สึกในช่วงเวลานั้นผ่านไปกี่นาทีไม่รู้ ไม่อยากรับรู้ใดๆ กระทั้งเสียงเคาะประตู
“ก๊อกๆ” ดังขึ้นอาการชาตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าจึงบอกสถานะสีดำค้างคาในหัว
“ขอโทษคะ คุณแจง W.T.V. วีซ่ามาถึงแล้วคะ” เสียงเลขาสาววัย 40 ปี ดังไกลจนสถานะสีดำยิ่งดำสนิทมากขึ้น “นายน้อย นายน้อยคะ”เธอกระตุ้นด้วยการเดินเข้ามาในห้อง แล้วขึ้นเสียงสูงสู่ระดับตะโกนใส่หน้า “นายน้อยคะ…”
ผมสะดุ้งโคลงเคลง มือวางอัลบั้มกฎเขกกะโหลกไว้บนโต๊ะแบบไม่ประณีต “หือ ว่าไงนะ…”
“คุณแจง W.T.V. วีซ่า มาถึงแล้วคะ”
“อ้าวเหรอ…..ให้เข้ามาได้”
“คะ ว่าแต่นายน้อยจะรับกาแฟไปด้วยเลยรึเปล่าคะ”
“OK….ขอเป็นกาแฟดำ อีกสักชั่วโมงนะ”
“ได้คะ……….”
หลังจากเลขาเดินส่ายตูดกลมๆ ราวกับแตงโม 2 ใบซ่อนในกระโปรงระดับเข่าสีดำออกนอกห้องไปแล้ว ผมจึงเก็บอัลบั้ม กฎกะโหลก สอดไว้ในลิ้นชักที่สามารถหยิบจับได้สะดวกก่อนสาวสวยวัย 25 ปี ตัวผอม ขาว สูงจะเปิดประตูหอบเอกสารเดินเข้ามาหยุดกลางห้อง
“คุยกันตรงนี้เลยก็ได้ครับน้องแจง เชิญนั่งครับ” ผมวาดมือนำเธอมาที่โต๊ะแทนชุดรับแขกที่อยู่ห่างออกไปติดกับผนังกระจก
“สวัสดีคะท่าน….เห็นวันนี้ท่านจะไม่เข้าออฟฟิต แจงเลยเอาเอกสารยื่นขอวีซ่าหลายประเทศมาให้เซ็นนะคะ”
“ครับ ผมต้องเตรียมตัวไปแอฟริกาใต้ 2 อาทิตย์นะ….มีกี่รายหอบมาซะเยอะเชียว” ผมถามขณะสายตาก็ประเมินไปด้วย
“20 ท่านคะ….ส่วนใหญ่จะไปอเมริกากับยุโรป แต่มี….เอ่ออออ” เธอหยุดราวจะประเมิน “เอ่อ….คุณอนุชัย จะไปแคนาดา” และหลุดชื่อสุดท้ายออกมาอย่างคนระมัดระวังตัว
“อนุชัย อนุชาย” ผมทวนชื่อและจงใจจะลากคำสุดท้ายให้ยานๆ ยาวๆ ขณะที่สมองนึกถึงกฎเขกกะโหลก 4 ข้อขึ้นมาในใจ
“คะ พี่ทิมมี่ คะ…..”
ผมราวกับถูกตอกตรึงด้วยหมุดไว้กับเก้าอี้นวม ผมพ่นลมหายใจแรงๆก่อนเบาะหนังสีดำจะกลืนกินผมไปทั้งร่าง จนน้องแจงที่นั่งจ้องรีบก้มหน้าเก็บอาการไปอีกคน “ไหนๆ เอามาดูดิ!….” ผมยืดตัวนั่งตรงได้อีก สายตาก็ไล่ตรวจเอกสารสำหรับยื่นขอวีซ่าทีละแผ่นๆ ขณะสถานะหัวใจผมก็วูบวาบราวกับมีลมทะเลเข้าปะทะครั้งแล้วครั้งเล่า “OK แจงกลับออฟฟิตไปก่อน เดี๋ยวผมจะส่งคนเอาไปให้ภายหลัง”
“คะท่าน…..” เมื่อหญิงสาวกำลังจะลุกขึ้น
“เอ่อ….เดี๋ยวครับ…..น้องแจง คุณอนุชัยจะเดินทางเมื่อไร”
หญิงสาวชะงักแล้วนั่งลงที่เดิมอีก “แจงรู้คร่าวๆ นะคะ วันที่ 8 กรกฎาคม กลับประมาณ 23 กรกฎาคม 2017 คะ”
“ประมาณ 2 อาทิตย์….ถ้าวีซ่าผ่านให้จองตั๋วเดินทางให้เขากับผมบินไฟท์เดียวกันนะ แต่อย่าให้เขารู้เด็ดขาด”
“เป็นคาเธ่ฯ….ไปต่อเครื่องที่ฮ่องกงเหมือนเดิมนะคะ”
“ครับ ขอบคุณมาก” หลังจากหญิงสาวเดินพ้นประตูไปแล้ว ผมก็เช็คเอกสารในมืออีกรอบ “เขาจะไปไหนของเขานะ…..” ผมคิดและยังคิดวนต่อเนื่อง โทรศัพท์มือถือถูกยกขึ้นกดตัวเลขที่คุ้นเคยหลายรอบ แต่สุดท้ายผมก็กดมันทิ้งทุกรอบ “ทิมมี่….ทิมมี่….ทิมมี่….”สุดท้ายผมก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้ จึงหยิบโทรศัพท์มือถือโทรเข้าเบอร์น้องแจงแบบคนเร่งรีบ
“น้องแจงรบกวนหน่อย….ลองสอบถามพี่อนุชัยให้หน่อย เขาจะพักที่ไหน ถ้ายังไม่มีให้น้องแจงเป็นธุระจองโรงแรม Holiday Inn Vancouver Downtown&Suites บนถนน Howe ST สัก 2 อาทิตย์นะ….ขอบใจมาก” ผมรีบพูดเร็วๆ แต่กะให้น้ำเสียงชัดเจนที่สุดในรอบเดียวก่อนจะวางสายไปโดยไม่รออีกคนตอบกลับ….. “อะไรของพี่เนี้ย ทิมมี่….ทิมมี่….” ปากก็พึมพำมือก็หยิบอัลบั้ม กฎเขกกะโหลก ขึ้นมาเปิดไล่ดูทีละหน้า ทีละแผ่นแบบไม่รู้จบ….กระทั้งเจอลายมือกว้างๆ ยาวๆ ที่เขียนด้วยปากกาเมจิกสีแดงทับรูปคู่ของชายหนุ่ม 2 คนในชุดว่ายน้ำกำลังยิ้มให้กันจนเห็นฟันครบ 32 ซี่ชัดเจน ว่า
“ถ้าจะให้บอกรักจากปาก คงไม่มีทางหรอกเด็กโง่เอ้ย!….ขอตบกะโหลกทีหนึ่งละกัน” ผมหัวเราะเสียงดังขณะดวงตาทั้ง 2 ข้างก็มีสภาพไม่ต่างไปจากบ่อน้ำพุในซอกหินที่ชิมะ…. “ผมอยากจะลูบคลึงกะโหลกพี่เหลือเกินทิมมี่”
……เมื่อความรักก่อเกิด……
……หัวใจก็อบอุ่น……
……ไม่จำเป็นต้องรอรักตอบสนอง……
……เพราะหัวใจแห่งรัก…….
……จะยิ้มตอบเพราะรัก……
……เพื่อรัก เพื่อเรา แค่เรา……
…………….นิราศเมืองชิมะ ประเทศญี่ปุ่น 1997