ฝันสุดท้าย ที่บ้านนางฟ้า นิยายอ่านฟรีจบเรื่อง ฉันกับนางฟ้าตัวกลม ตอนที่31
ฉันกับนางฟ้าตัวกลม ตอนที่31
“ฝันสุดท้ายที่บ้านนางฟ้า”
เดือนธันวาคม 2525
“โมนา โมน๋า โมน้า โมน่า โมน่า ใช่ไหม” ผมทวนเบาๆก่อน
“ใช่….ออกเสียงแบบนั้นละ บักหล่าลองเรียกเอื้อยใหม่ซิ”
“โมน่า…..โมน่า โมน่า”
จะ 2 ทุ่มแล้วทางโค้งที่เคยเป็นสีแดงกลับดำมืด อันเป็นสีของรัตติกาลที่มาพร้อมกับผีสารพัด ผมกลัวและรู้สึกโดดเดียวไปพร้อมกันในเวลานั้น ผมยืนยันกับแม่ต้อยและเอื้อยโมน่าเด็กหญิงวัย 13 จะย่างเข้า 14 ปีอย่างแข็งขืนว่าจะไม่อาบน้ำ “เดี๋ยวพ่อก็มารับ จะกลับไปอาบที่บ้าน” ผมให้เหตุผลง่ายๆ บวกงอแงเพียงด้านเดียว
“ไม่อาบก็ไม่อาบ ถ้าอย่างนั้นบักหล่าคำแพงมากินข้าวกับเอื้อยมา”
“มากินข้าวก่อน เดี๋ยวพ่อเอ็งก็มาไม่ต้องไปส่งไปส่องมันแล้ว ผีเยอะนะทางนั้นนะ” แม่ต้อยเสริมพลางขู่อย่างคนรำคาญ ผมเย็นวูบยันไข่ จนต้องเร่งฝีเท้ากึ่งวิ่งอ้อมไปนั่งมุมด้านในให้ใกล้กับแสงนีออนที่สว่างสีขาวนวลให้มากที่สุด จนคนทั้งคู่พากันหัวเราะลั่นบ้าน “ไอ้นี้มันกลัวผีจริงวะเฮ้ย! แล้วเอ็งละโมน่ากลัวผีไหม?”
“ก็กลัวเหมือนกันแหละ ยิ่งผีแม่นาคพระโขนงนะ โอ้ยยยยกลัวที่สุดแหละป้า” โมน่าพูดขณะที่ผมตัวสั่นขนลุกขนพอง
“พอๆ เลิกพูดกินข้าวได้ละ….”
หลังจบอาหารเย็นประตูบานเฟี้ยมไม้สีน้ำตาลแดงค่อยๆปิดที่ละบาน พ่อก็ยังไม่กลับช่องท้องที่พึ่งอิ่มแน่นๆกลับโหวงเหวงเย็นยะเยือกราวกับมันว่างเปล่า “พ่อไปอยู่ไหน ใกล้มาถึงรึยัง” ผมถามลอยๆ เผื่อระดับเสียงให้ได้ยินทั้ง 2 คน เอื้อยโมน่าขยับเข้ามานั่งโอบจนชิด “พ่อคงใกล้ถึงแล้วเนอะ” ผมง่วงนอนสุดๆ ตาก็กำลังฝืนไม่อยากหลับ “เดี๋ยวพ่อก็มา”
“ใกล้ถึงแล้วละ…นอนก่อนก็ได้ พ่อบักหล่ามาเอื้อยจะปลุกเอง” โมน่าพูดเบาๆ
“เออ ตกลงมึงจะไปแคนานาเดือนไหนนะหมอน เอ้ย!…โมน่า” แม่ต้อยนุ่งกระโจมอกเดินออกมาจากห้องน้ำถามขึ้น
“ต้นๆ เดือนกุมภาพันธ์จ้าป้า….”
“ถ้าอย่างนั้นเดือนหน้าเอ็งก็ยังอยู่กับป้าได้ใช่ไหมละ”
“จ้า….บักหล่าคำแพงเราจะได้เจอกันอีกไหมน้อ!….” เอื้อยสาวพูดแบบคนละเมอ ตาที่กำลังจะหลับกลับสะดุ้งตื่นอีกครั้ง ผมขยี้ตาให้เจ็บเพื่อให้ตัวเองรู้สึกเจ็บ (พ่อทำไมมาช้าจัง) ในใจก็ยังคิดไม่ตกกับเรื่องเดิม
“อ้าวๆ…ฉันไปใส่เสื้อผ้าก่อนจะเอาด้ายมาผูกข้อไม้ข้อมือให้เป็นพี่เป็นน้องกัน” แม่ต้อยหายขึ้นชั้น 2สักพักก็กลับลงมาด้วยกางเกง 5 สีดำส่วนกับเสื้อลายดอกกุหลาบสีแดงนั่งลงใกล้ๆเราทั้งคู่ “มา มา ขยับเข้ามาแม่จะผูกข้อไม้ข้อมือให้ โมน่ามานั่งข้างซ้ายจับข้อมือน้องเอาไว้”
เด็กสาวเดินอ้อมมานั่งแหมะอีกฝั่งแล้วเอาฝ่ามืออุ่นๆมาแตะรองข้อศอกผมอย่างคนรู้งาน (แต่ผมง่วงเหลือเกิน พ่อก็ยังไม่กลับ พ่อคงใกล้จะถึงแล้วละ) ผมก็ยังวนคิดแต่เรื่องเดิม แม่ต้อยแบ่งด้ายในมือออกเป็น 2 เส้นแล้วมัดปมที่กลางด้ายแต่ละเส้นด้านละเท่าๆ กัน
“เดี๋ยวๆ ฉันมีขมิ้นในครัวรอแป๊บเดียว”
“อ้อ!…หนูไปหยิบให้เองจ๊ะป้า” โมน่าคงจะรำคาญกับอาการที่ลุก-นั่งค่อนข้างช้าของแก เลยอาสา เธอวิ่งหายเข้าไปในครัวไม่นานก็กลับออกมาพร้อมกับที่ขูดขมิ้นที่ทำมาจากดินเผาสีน้ำตาลดินลายดำถ่าน
“เออดีๆ….มา มา มา” แม่ต้อยพูดพลางรับที่ขูดขมิ้นประมาณถ้วยแกงใบเล็กๆแล้วขูดขมิ้นที่เหลือจนเหลืองก่อนจะนำด้าย 2 เส้นลงไปชุบ…. “มาบักหล่ายื่นแขนมา โมน่าเอามือขวาแตะข้อศอกน้องแล้วยื่นมือซ้ายมาใกล้ป้า”
ผมง่วงนอนเหลือเกิน ตากำลังจะปิด พ่อก็ยังไม่มา แต่ก็ต้องทำตามอย่างเสียไม่ได้
“บักหล่าอย่าพึ่งหลับนะ” เสียงโมน่ากระตุ้น ทำให้โสตประสาทผมตื่นตัวอีกราว 40 เปอร์เซ็นต์
“อ้าวๆ ตั้งใจทั้ง 2 คน ต่อจากนี้เป็นต้นไปไม่ว่า 2 คนจะไปอยู่ที่ไหน ไกลคนละฟ้า ก็ขอให้ฟ้าดินรับรู้ว่าพวกเอ็งได้ผูกความสัมพันธ์เป็นเอื้อย-น้องกันนับตั้งแต่คืนนี้ไป สาธุ สาธุ สาธุ” แม่ต้อยพูดไปผูกข้อมือเราทั้งคู่ไปจนจบ ก่อนจะยกมือไหว้ไปที่หิ้งพระแล้วกล่าวคำว่าสาธุอีก 3 ครั้ง “เป็นพี่เป็นน้องกันสมบูรณ์แล้วนะ ให้รักกันแพงกัน คิดถึงกัน อย่าได้ลืมกันนะ”
โมน่ายิ้มจนเห็นฟันครบ 32 ซี่ เธอกำลังจะร้องไห้ (ผมประเมินจากกิริยา) แต่ผมง่วงเหลือเกิน พ่อก็ยังไม่กลับ ผมจะหลับอยู่แล้ว พ่ออยู่ไหนน้ออออออ…..
“ไปเอาหมอนกับผ้าห่มมาให้น้องโมน่า ฉันก็จะนอนเล่นกับพวกเอ็งตรงนี้แหละ”
ผม…ในวัย 9 ขวบหลับข้างๆเอื้อยสาวตัวป้อมๆ ทั้งๆ ที่พ่อยังไม่กลับ แม่ต้อยปิดไฟฟ้าแล้วเอนหลับอยู่อีกฝั่ง พี่สาวคนใหม่ของผมหลับรึยังน้อออ….แต่ผมหลับแล้วละ พ่ออยู่ไหน พ่อทำอะไรอยู่….(ผมฝัน ผมกำลังฝัน และกำลังฝันหลายเรื่อง)
19 กรกฎาคม 2560
ผมสะดุ้งตื่นท่ามกลางความมืดที่โซฟาสีแดงในบ้านของนางฟ้าตัวกลม “กี่โมงกี่ยามกันแล้วนะ….” ผมขยี้ตาแล้วหยิบโทรศัพท์มือถือที่ชาร์ตไฟทิ้งไว้ตั้งแต่กลับมาถึงบ้านเปิดดู
“ตี 3 ครึ่ง”ผมพึมพำ นางฟ้าตัวกลมเข้าไปนอนในห้อง (นางคงเหนื่อยเพราะการเดินทางกลับจากวิกตอเรีย) เมื่อสมองคิดผมก็ไม่อาจหลับตาลงได้อีก ผมลุกนั่งเปิดเฟสบุ๊ค-อ่านเมลล์ เช็คงานจากโปรแกรมไลน์ ก่อนจะจบลงที่ความฝันเมื่อสักครู่….
ฝันสุดท้าย
“เออ…ฝันอะไรวะ….อ้อ….สมัยที่พ่อพาไปซื้อควายที่บ้านนาโพธิ์” ผมพูดกับตัวเองที่ลำคอ (แม่ต้อยผูกข้อมือให้เป็นพี่เป็นน้องกับนางฟ้าตัวกลม ไม่เคยนึกว่าจะมีวันนี้) ผมคิดต่อขณะที่รอยยิ้มกำลังเฉิดฉายอย่างเดียวดายท่ามกลางความมืดสีเทา (ต้นกุมพาพันธ์หลังฉลองกรุงรัตนะโกสินทร์ 200 ปี เอื้อยโมน่าบินมาอยู่ที่นี้ และอีก 3 เดือนแม่ต้อยมาหาเราที่บ้านบอกแม่และพ่อว่าจะไปอยู่กับพี่สาวที่ออสเตรเลีย แล้วก็หายไปอีกคน กระทั้งผมเรียนใกล้จบ แกก็กลับมาเยี่ยมในมาร์ทสาวออสซี่เต็มตัว ตอนนั้นผมมองว่าแม่ต้อยสวยขึ้นสาวขึ้นกว่าเดิมเยอะ)….ผมนั่งยิ้มแล้วยิ้มอีก จนใกล้เคียงกับคนบ้า
“ขอบคุณนะแม่ที่พาผมกลับมาเจอเธอ โมน่าคือนางฟ้าตัวกลมสำหรับผมโดยแท้ แม้หัวใจเธอจะใส่ลิ้นหัวใจเทียมแต่จิตใจที่จุดเดียวกันกลับแข็งแกร่งและสมบูรณ์แบบ เธอคือนางฟ้าถึงแม้จะไร้ปีก ถึงแม้จะตัวกลมๆ แต่เธอก็เป็นนางฟ้าตัวกลมสำหรับผมมาโดยตลอด” ผมยกมือขึ้นประสานเข้าด้วยกันระดับอกแล้วส่งคำภาวนาต่อความว่างเปล่า
“ข้าพเจ้าเป็นคนไม่มีศาสนา ไม่เชื่อเรื่องงมงายหรือเรื่องใดๆ ที่ข้าพเจ้าไม่เคยเห็น แต่คืนนี้ข้าพเจ้าขอภาวนาต่อทุกๆ สิ่ง ทุกๆ ที่ ทุกๆ องค์ ทุกๆ ท่าน บนโลกนี้หรือโลกที่ซ่อนเร้น หากขอได้ ข้าอยากจะขอให้สุขภาพของนางฟ้าตัวกลม ลูกอยากจะเห็นนางกลับมาแข็งแรง ใช่! ขอเพียงแค่นางแข็งแรงข้อเดียว…ที่เหลือจิตใจที่ดีงามของนางจะนำพาอีกหลายคนให้อยู่รอด ได้โปรด!”
ผมพ่นลมหายใจออกมายาวๆ แบบคนโล่งอก “นางฟ้าตัวกลมต้องแข็งแรงขึ้นอย่างแน่นอน” ผมพึมพำระดับเสียงละเมอพลางเหลือบไปสำรวจกระเป๋าเดินที่ซ่อนอยู่ในความเงามืด อีกไม่กี่ชั่วโมงผมก็ต้องออกเดินทางสู่บ้านเล็กกลางป่าสนใกล้ๆ พรมแดนสหรัฐอเมริกาแล้ว ผมคงต้องคิดถึงนางฟ้าตัวกลมในหลายๆ แง่มุม และเชื่อหากนางไม่สาบส่ง ก็คงจะคิดถึงผมในหลายๆ แง่มุมจนอดตามหาเรื่องด่าถึงบ้านเล็กกลางป่าสนไม่ได้แน่นอน….ติดตามตอนต่อไปเรื่อยๆ พิมพ์ผิด พิมพ์ถูก ขาดๆ เกินๆ ก็ให้อภัยกัน….นะครับ ขอบคุณมาก
เจอกัน “I & The Big Angels ฉันกับนางฟ้าตัวกลม” ตอนที่ 32 “บ้านเล็กกลางป่าสน” เร็วนี้…ใกล้จะกลับเมืองไทยแล้ว มีอีเมลจากคนที่ใช้นามแฝงว่า “เดียร์เนียว” 2 ฉบับ ไว้ผมจะเปิดอ่านภายหลัง แล้วเจอกันครับ บาย บาย