จิตใจดีย่อมได้สิ่งที่ดี

สาระธรรมดีๆ จาก ห้องพระ ทรงอาจดอททูเดย์ จิตใจดีย่อมได้สิ่งที่ดี

จิตใจดีย่อมได้สิ่งที่ดี

ความรู้สึกขอบคุณก่อให้เกิดสิ่งที่น่าขอบคุณ ความรู้สึกไม่พอใจจะยิ่งนำไปสู่ความไม่พอใจ นี่คือสัจธรรมอันถ่องแท้ เพราะจิตใจที่รู้สำนึกในความขอบคุณจะส่งถ่ายไปถึงพระ แต่จิตใจที่รู้สึกไม่พอใจจะส่งถ่ายไปถึงมาร จากเหตุผลนี้เอง ถ้าหากผู้ใดมีความรู้สึกขอบคุณอยู่เสมอจะทำให้เขาเป็นสุขโดยธรรมชาติ แต่ถ้าผู้ใดเอาแต่พร่ำบ่น และแสดงความไม่พอใจอยู่ตลอดเวลาย่อมทำให้เขาเป็นทุกข์ ดังคำสอนของศาสนาหนึ่งที่ว่า”ถ้าเรายินดีเราก็จะได้พบแต่สิ่งที่น่ายินดี” นี่คือหลักความจริง ถ้าเราทำตามคำแนะนำ ก็จะสามารถแก้ไขปัญหาต่างๆได้ บวกเพิ่มความจริงใจเป็นพื้นฐานด้วยแล้วก็จะเป็นผู้ที่มีความก้าวหน้าในหน้าที่การงานและประสบโชคดีในที่สุด

เรื่องเล่าของวันนี้เป็นเรื่องเล่าของชายหนุ่มคนหนึ่ง เดินเข้าไปเลือกซื้อชามในร้านแห่งหนึ่ง เขาหยิบชามใบหนึ่งขึ้นมา เมื่อเห็นชามใบที่ถูกใจก็เอาชามที่อยู่ในมือนั้นเคาะไปยังชามใบที่ถูกใจเพื่อฟังเสียงชามกระทบกัน เมื่อชามทั้งสองใบกระทบกันกลายเป็นเสียงหนักๆ ไม่ดังกังวานเหมือนที่เขาคิด เขารู้สึกผิดหวังได้แต่ส่ายหัวไปมา จากนั้นเขาก็ได้เลือกชามใบใหม่ ใบแล้วใบเล่าจนชามทุกใบถูกนำมาเคาะ แต่ผลที่ออกมาทำให้เขาส่ายหน้าและผิดหวังทุกใบ ไม่มีใบใดที่ทำให้เขาพอใจได้เลย แม้แต่ใบที่เถ้าแก่เลือกให้ ซึ่งเป็นชามเกรด A เขาก็ยังส่ายหน้าไม่พอใจอยู่ดี

จิตใจดีย่อมได้สิ่งที่ดี

ด้วยความสงสัยของเถ้าแก่ จึงถามชายหนุ่มว่า “คุณเอาชามมาเคาะกันทำไม?”

“อาจารย์ท่านหนึ่งสอนผมว่า หากจะซื้อชาม ให้เอาชามมาเคาะกันหากเสียงชามกังวานนั่นแปลว่า ชามใบนั้นมีคุณภาพครับ” ชายหนุ่มตอบเถ้าแก่เจ้าของร้าน

เจ้าของร้านหยิบชามใบหนึ่งขึ้นมาส่งให้เขาแล้วบอกกับเขาว่า “พ่อหนุ่มคุณลองเอาชามใบนี้ไปเคาะกับชามใบอื่นดูสิ ฉันเชื่อว่าคุณน่าจะได้ชามที่คุณพอใจ”

เขารับชามใบนั้นมาแบบเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่ก็ลองทำตามที่เถ้าแก่บอก น่าแปลกจริงๆ ไม่ว่าเขาหยิบชามใบใดขึ้นมา เมื่อเอาขึ้นมาเคาะกับชามที่เถ้าแก่หยิบให้ทุกชามทุกใบต่างก็ดังกังวาน เหมือนที่อาจารย์ท่านนั้นได้บอกแก่เขา

“แปลกจริงๆ ครับ ทำไมชามใบนี้ถึงพิเศษแบบนี้ละครับ มันต่างจากชามที่ผมหยิบมาเมื่อสักครู่นี้ยังไง?”

เถ้าแก่อมยิ้มชอบใจ เฉลยให้ชายหนุ่มฟังว่า “ชามใบนี้ไม่ได้มีอะไรพิเศษกว่าชามใบอื่นแต่อย่างใด ที่มันต่างกันเพราะชามที่คุณหยิบมาเมื่อสักครู่นี้ มันเป็นชามที่มีรอยร้าว เมื่อคุณเอาไปเคาะกับชามใบใดๆ มันจะมีเสียงกังวานได้ยังไง หากคุณต้องการชามดีๆ สักใบ คุณต้องมั่นใจก่อนว่า ชามที่อยู่ในมือของคุณก็เป็นชามที่มีคุณภาพเหมือนกัน!”

เรื่องนี้อ่านแล้วให้ได้คิดว่า ชามที่มีรอยร้าวเปรียบดังใจที่มีตำหนิใจที่ไม่พอใจ ใจที่อคติ ใจที่ไม่บริสุทธิ์ ยามนำใจนี้ไปประเมินสิ่งใด สิ่งที่ถูกประเมินก็จะดูด้อยค่า มีตำหนิมีจุดยกพร่องมากมาย การที่มัวแต่เพ่งโทษไปรอบข้าง ลืมเพ่งโทษตนเอง ต่อให้รอบข้างสวยงาม ดีเลิศเพียงใด ใจที่มีอคติก็มองเข้าไปไม่เห็นความสวยงามเหล่านั้น

จงซ่อมแซมดูแลใจรักษาใจอย่าให้มีรอยร้าว อย่าให้ตำหนิ อย่าให้มีอคติแล้วโลกรอบตัวจะน่าอยู่ขึ้นมาทันที ให้มีความรู้สึกขอบคุณตลอดเวลาทุกขณะจิตเลยทีเดียว เรื่องของใจที่มีอคติมีอยู่มากมาย แม้แต่ดอกไม้ อย่างดอกชบา กิ่งของชบาก็เป็นกิ่งที่สวยงาม มีดอกก็สวยงาม ครั้นโบราณจะใช้ดอกชบาสีแดง มาร้อยเป็นพวงมาลัยคล้องคอประจานผู้หญิงที่ถูกจับได้ว่ามีชู้ เลยเป็นสัญลักษณ์ที่ไม่เป็นธรรมกับดอกไม้เท่าไร เหมือนชายผู้นี้ตัวเองไม่โทษตัวเอง กลับโทษชามไม่มีดี ดังสุภาษิต “รำไม่ดี โทษปี่โทษกลอง”

รวบรวมและเรียบเรียงธรรมะดีๆ โดย พเยาว์

ทรงอาจแนะนำ

ควรทำหน้าที่ของตน และไม่ควรประมาท
สิ่งที่ทำแล้ว ทำคืนไม่ได้
การคบคนดีเป็นมิตร มีแต่เกิดประโยชน์
ไม่มีพลังใด เสมอด้วยแรงแห่งกรรม
เมื่อถึงคราวทุกข์ ก็ควรมีสติ
ใคร่ครวญก่อนแล้วจึงทำ ดีกว่า
พึงยกย่อง คนที่ควรยกย่อง
เป็นคนควรพยายาม ไปจนกว่าจะสำเร็จ
ความชั่ว ไม่ทำเลยดีกว่า
จงเตือนตนด้วยตนเอง
คนโกรธ มักอยู่เป็นทุกข์
สารตั้งต้นแห่งความสำเร็จ
พึงทำดีให้โลกนี้เป็นสวรรค์บนดิน
ความศรัทธาคือความเที่ยงธรรม
บาปย่อมไม่มีแก่ผู้ไม่ทำ
ธรรมทั้งหลายมีใจเป็นใหญ่
มนุษย์แปลว่าผู้มีจิตใจสูง
หว่านพืชเช่นใด ย่อมได้ผลเช่นนั้น
ความประเสริฐของมนุษย์
จดหมายจากยมบาล
Visited 31 times, 1 visit(s) today

เผยแพร่โดย

พเยาว์ โมทาน

รวบรวม เรียบเรียง บทความธรรมะ ประชาสัมพันธ์