อยากเขียนให้อ่าน เรื่องราว ของหายได้คืน เกิดขึ้นในวันที่ทำกิจวัตรประจำวันตามปกติวันหนึ่ง
ของหายได้คืน
เช้าส่งลูกชายที่โรงเรียนตามปกติ ถึงโรงเรียนซื้อน้ำเปล่าให้ลูกชายขวดหนึ่ง ด้วยตังค์ที่อยู่ในกระเป๋าหิ้วเล็กๆ ที่มีบัตรประชาชนอยู่ในนั้นด้วย ซึ่งถือไปด้วยทุกวัน นั่งอยู่กับลูกชายพักหนึ่งแล้วถึงกลับ ช่วงที่นั่งอยู่กับลูกชายปกติก็จะดื่มกาแฟ แต่พอดีช่วงนี้ เข้าพรรษางดกาแฟ เพราะรู้สึกว่ากินมานานแล้ว กาแฟไม่ช่วยอะไร จะว่าแก้ง่วงได้ กินแล้วก็ง่วงเหมือนเดิม เมื่อไม่ได้ดื่มอะไรก็กลับจากส่งลูกชายเร็วกว่าเดิม
ออกจากโรงเรียนลูกชายมุ่งหน้าไปที่ปากซอย เพื่อกินอาหารมื้อที่หนึ่งของวัน ชี้แจงนิดหนึ่ง ที่ไม่เรียกว่ามื้อเช้า เป็นความตั้งใจ เพราะถ้าเรียกมื้อเช้า ก็จะมีมื้อกลางวัน และมื้อเย็น ไม่รู้ใครพาเรียก พอดีเข้าพรรษาตั้งใจจะกินแค่สองมื้อ ก็เลยเรียกว่า มื้อที่หนึ่ง และ มื้อที่สอง
ที่ร้านข้าวลาดแกง เจ้าประจำ สั่งข้าวลาดแกงมานั่งกินอย่างพินิจพิเคราะห์ถึงอาหารที่ใส่เข้าไปในปาก เสร็จแล้วจ่ายตังค์ เดินไปที่รถมอเตอร์ไซค์ที่จอดอยู่ข้างถนน เพื่อมุ่งหน้ากลับบ้าน ขับไปได้นิดหนึ่ง มองไปที่ช่องวางของ ของหาย!
งานเข้าทันที ของที่หายคือ กระเป๋าหิ้วเล็กๆ ที่มีตังค์ มีบัตรประชาชนอยู่ในนั้น หายไปตั้งแต่เมื่อไร ไม่รู้ ความงง ความมืดมน เริ่มวนเวียนเข้ามา ตังค์ที่จ่ายค่าข้าวลาดแกง เป็นตังค์ที่เตรียมไว้ที่กระเป๋าเสื้อ ไม่ใช่ตังค์ที่อยู่ในกระเป๋าหิ้ว กระเป๋าหิ้วถ้าไม่ได้หิ้วไปด้วยก็ต้องอยู่ที่รถ แต่…ไม่มีเลย ใครมาหยิบไป หรือลืมไว้ที่ไหน คิดไปต่างๆ นานา
ลองเริ่มนึกย้อนเหตุการณ์ตั้งแต่เริ่มออกจากบ้าน ที่แรกที่ไปคือโรงเรียนลูก จึงตัดสินใจย้อนกลับไปที่โรงเรียนลูก ถามแม่บ้านที่ห้องอาหารโรงเรียนก็ไม่มีใครเห็น มองดูตรงที่นั่ง และโต๊ะใกล้ๆ ก็ไม่มีแม้แต่เงากระเป๋า
ตัดสินใจมุ่งหน้าไปที่หน้าปากซอยอีกครั้ง ถามป้าร้านข้าวแกง ป้าก็บอกไม่เห็น แต่น้ำใจของป้าสุดยอดมาก แกเป็นทุกข์เป็นร้อนแทนเลย “เงินไม่เท่าไรหรอก บัตรประชาชนหายนี่สิ ไปทำใหม่ที เสียเวลา….” แกบ่นแทน พร้อมกับพยายามถามกับพวกที่ดูแลศูนย์อาหารให้ ถึงขนาดพาเดินไปถามที่ห้องแม่บ้านเลย ซึ่งอยู่อีกด้านหนึ่ง ห่างจากร้านแกออกไป เอาใจใส่ลูกค้าดีมาก
“ไม่เป็นไรป้า อาจหล่นหายที่อื่นก็ได้” บอกให้ป้าสบายใจ หาไม่เจอก็คือไม่เจอ ของที่มันหายได้ก็ได้หายไปแล้ว กลับบ้านดีกว่า แม้จะปลงๆ บ้างแล้ว แต่ระหว่างขับรถกลับบ้านก็อดคิดไปอย่างไม่มีเหตุผลไม่ได้ ว่า เราก็ไม่เคยคิดอยากได้อะไรของใคร ใครที่เก็บของเราได้ ก็ไม่น่าที่จะอยากได้อะไรที่เป็นของของเรา
ตั้งแต่เช้ายันเย็น ยันพาลูกชายเข้านอน ก็ไม่มีวี่แววว่าจะได้กระเป๋าคืน
“นอนๆ ลูก ดึกแล้ว” บอกลูกชายนอนเหมือนทุกวันที่เคยบอก ลูกชายเอนกายลงไปนอนยังไม่ทันหลับ ก็ลุกขึ้นเดินออกจากห้องนอนไป แล้วกลับเข้ามาพร้อมกับบอกว่า
“กระเป๋า พ่อ พ่อทำกระเป๋าหายทำไม? ครูเรียกเว็บไซต์ไปรับ ครูบอก เอาไปให้พ่อเธอ”
สรุป ของหายได้คืน ทำหล่นที่โรงเรียน ขอบคุณ คุณป้าร้านข้าวแกง ที่เป็นทุกข์เป็นร้อนแทน ขอบคุณ คุณครู ที่รู้ว่า เป็นกระเป๋าของผู้ปกครองนักเรียนคนไหน ส่วนว่าจะเกี่ยวกับ ไม่เคยคิดอยากได้อะไรของใคร ใครก็ไม่น่าจะคิดอยากได้อะไรของเรา อันนี้ ไม่เชื่ออย่าลบลู่ ครับท่าน!